fbpx

น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ & สำนักนินจาอิงะ ทริปเดียวเที่ยวได้ทั้งสายธรรมชาติและประวัติศาสตร์!

ส.ค. 18, 2023

น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ & สำนักนินจาอิงะ ทริปเดียวเที่ยวได้ทั้งสายธรรมชาติและประวัติศาสตร์!

น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ Akame 48 Waterfalls

ณ ใจกลางจังหวัดมิเอะ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่เป็นดั่งเพชรเม็ดงามของประเทศญี่ปุ่นซุกซ่อนอยู่ นั่นก็คือ “น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ” (Akame 48 Waterfalls) หรือเรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า “น้ำตกอากาเมะชิจูฮาจิ” สถานที่แห่งนี้จะพาเหล่านักท่องเที่ยวไปพบกับภาพวิวทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามตระการตา อีกทั้งยังได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ที่หาไม่ได้จากที่ไหนๆอย่างการท่องโลกประวัติศาสตร์ของนินจา เพราะน้ำตกแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ “สำนักนินจาอิงะ” (Iga Ninja Training Grounds) ด้วยค่ะ

“น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ” นั้นมีลักษณะตรงตามชื่อของมัน คือเป็นพื้นที่น้ำตกขนาดกว้างใหญ่ที่แตกแขนงแยกย่อยเป็นน้ำตกอีกกว่า 48 สาย โดยน้ำตกแต่ละแห่งที่แยกออกมาก็ล้วนมีมนตร์เสน่ห์และความงามเฉพาะตัวในแบบที่แตกต่างกันไป

เนื่องด้วยการเป็นที่ตั้งของ “สำนักนินจาอิงะ” น้ำตกแห่งนี้จะมอบประสบการณ์การผจญภัยอันหาจากที่ไหนไม่ได้ เพราะทุกคนจะได้เที่ยวชมธรรมชาติที่แสนตื่นตาตื่นใจ พร้อมกับที่ได้ดำดิ่งไปในโลกของเหล่านินจานั่นเอง

หากพร้อมจะไปชมความงามของน้ำตกและเรียนรู้วิถีชีวิตของเหล่านินจากันแล้วล่ะก็ มาออกเดินทางไปกับพวกเราได้เลยค่ะ!

สารบัญ (Index)

1. วิธีเดินทางไป “น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ”

น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะสามารถเดินทางไปได้อย่างสะดวกด้วยรถไฟฟ้าคินเท็ตสึ นักท่องเที่ยวจึงสามารถเริ่มต้นการเดินทางได้จากหลายๆเมืองใหญ่ในภูมิภาคคันไซ

  • เดินทางจากโอซาก้า : หากเริ่มต้นการเดินทางในจังหวัดโอซาก้า ให้ขึ้นรถไฟจากสถานีรถไฟคินเท็ตสึ Osaka-Namba สาย Kintetsu Nara Line เพื่อไปลงที่สถานี Yamato-Saidaiji เมื่อถึงสถานีนี้แล้ว ให้เปลี่ยนขบวนรถไฟไปนั่งสาย Kintetsu Osaka Line แทน จากนั้นให้ขึ้นรถไฟที่วิ่งไปทางสถานี Nabari โดยลงรถที่สถานี Akameguchi ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง จากสถานีนี้คุณสามารถนั่งรถบัสหรือรถแท็กซี่ต่อไปยังน้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะได้
  • เดินทางจากนารา : หากเริ่มต้นการเดินทางในจังหวัดนารา ให้ขึ้นรถไฟจากสถานี Kintetsu-Nara ไปเปลี่ยนขบวนที่สถานี Yamato-Saidaiji แล้วนั่งรถไฟต่อไปยังสถานี Yamato-Yagi เพื่อเปลี่ยนขบวนไปนั่งสาย Kintetsu Osaka Line อีกที จากนั้นให้ขึ้นรถไฟคันที่ไปทาง Nabari แล้วลงรถที่สถานี Akameguchi ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง
  • เดินทางจากนาโกย่า : หากเริ่มต้นการเดินทางจากเมืองนาโกย่าในจังหวัดไอจิ ให้ขึ้นรถไฟจากสถานี Nagoya Station เพื่อขึ้นรถไฟสาย Kintetsu-Nagoya Line ไปที่สถานี Yokkaichi Station เมื่อไปถึงสถานี Yokkaichi ให้เปลี่ยนขบวนรถไฟไปขึ้นสาย Kintetsu Yokkaichi Line จากนั้นให้ขึ้นรถไฟคันที่ไปทางสถานี Ise-Nakagawa แล้วลงที่สถานี Akameguchi Station ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง
  • เดินทางจากมิเอะ : หากเริ่มต้นการเดินทางในจังหวัดมิเอะ ให้ขึ้นรถไฟสาย Kintetsu Ise Line จากสถานี Ise-Shi ไปลงที่สถานี Akameguchi Station ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง

Back To Index

2. ทำความรู้จักกับ “น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ” ก่อนเดินทางไปเที่ยว

“น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ” เป็นสถานที่ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับศตวรรษ พื้นที่อุทยานแห่งนี้ประกอบไปด้วยน้ำตกแยกย่อยหลายสายที่เชื่อกันว่าในอดีตได้ถูกใช้เป็นสถานที่ฝึกวิชาของเหล่านักรบนินจา ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในด้านการดักซุ่มโจมตีและการต่อสู้ในยุคสมัยศักดินาของญี่ปุ่น น้ำตกเหล่านี้ถูกใช้เป็นด่านจำลองของสิ่งกีดขวางทางธรรมชาติ เพื่อฝึกฝนทักษะความว่องไว ความอดทน และความสามารถในด้านต่างๆของเหล่านินจา

ปัจจุบันสำนักนินจาที่น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะได้กลายมาเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่มองหากิจกรรมสันทนาการเพื่อความผ่อนคลาย รวมถึงผู้ที่อยากลองสัมผัสประสบการณ์การฝึกฝนทางจิตใจ ซึ่งผู้คนท้องถิ่นในพื้นที่อุทยานนี้ก็ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ความงามของธรรมชาติที่นี่เอาไว้ จนเกิดเป็นแนวคิดในการยกย่องให้ “น้ำตกอากาเมะชิจูฮาจิ” หรือ “น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ” ได้เป็นอุทยานธรรมชาติในปี 1957

และในปัจจุบันอุทยานแห่งนี้ก็ยังคงได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี เมื่อมาที่นี่ทุกคนจึงสามารถชมเสน่ห์ความงามอันล้นเหลือของน้ำตกและรับรู้ถึงคุณค่าของมรดกทางประวัติศาสตร์ที่สำนักนินจาอิงะไปได้พร้อมๆกัน

Back To Index

3. สัมผัสความงามที่แตกต่างกันตามแต่ละฤดูกาล ณ น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ

รอบๆบริเวณน้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะนั้นมีธรรมชาติที่บริสุทธิ์สวยงาม อุดมสมบูรณ์ เขียวชอุ่ม อีกทั้งยังมีดอกไม้นานาพรรณและสัตว์ป่าหลายชนิด

แต่เมื่อฤดูกาลผันแปร ธรรมชาติรอบๆพื้นที่แห่งนี้ก็จะสวยงามในแบบที่แตกต่างออกไปจากเดิม เราจะได้เห็นภาพทิวทัศน์ที่งดงามแปลกตาและมีความหลากหลาย ซึ่งสามารถมาเที่ยวชมได้ทุกช่วงตลอดทั้งปี

  • ฤดูใบไม้ผลิ : ในฤดูใบไม้ผลิพื้นที่บริเวณน้ำตกจะแปรเปลี่ยนเป็นทุ่งดอกไม้อันแสนตระการตา เส้นทางเดินป่าจะมีดอกซากุระและดอกไม้ป่านานาพรรณชูช่อสวยงามอยู่ตามรายทาง ภาพของน้ำตกที่หลั่งไหลเป็นสายท่ามกลางดอกซากุระสีชมพูนั้นช่างสวยงามจนไม่อาจละสายตา
  • ฤดูร้อน : ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่นำพาความสดชื่นมีชีวิตชีวามาสู่พื้นที่น้ำตก เราจะได้พบกับความอุดมสมบูรณ์เขียวชอุ่ม สายน้ำตามแนวน้ำตกก็หลั่งไหลอย่างมีพลัง ไอเย็นจากละอองน้ำก็ช่วยบรรเทาความอบอ้าวของหน้าร้อน เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเดินป่าสำรวจเส้นทางในบริเวณน้ำตกแห่งนี้เลยค่ะ
  • ฤดูใบไม้ร่วง : ในฤดูใบไม้ร่วงเราจะได้เห็นภาพทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยเฉดสีแดง สีส้ม และสีทองของต้นไม้ในป่า สายน้ำตกที่งดงามแบบเรียบง่ายจะโดดเด่นออกมาท่ามกลางสีสันจัดจ้านของใบไม้เปลี่ยนสี
  • ฤดูหนาว : หากต้องการเที่ยวน้ำตกแห่งนี้ท่ามกลางความเงียบสงบ ฤดูหนาวคงเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับบรรยากาศแบบนี้ อากาศที่หนาวเย็นจะทำให้สายน้ำจับตัวแข็ง เราจึงมีโอกาสได้ชมทัศนียภาพอันแสนอัศจรรย์ของน้ำแข็งที่ห้อยย้อยลงมาตามผาหิน

Back To Index

4. จุดเช็คอินห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวน้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ

ท่ามกลางน้ำตกจำนวนมหาศาลที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซ มีน้ำตกสาขาย่อยหลายแห่งในพื้นที่ของ “น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ” ที่สวยงามดั่งอัญมณีและควรค่าแก่การไปเยือน น้ำตกดังกล่าวนั้นได้แก่

4.1 น้ำตกนิไน (Ninai Falls)

ในบรรดาน้ำตกสาขาของน้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ น้ำตกนิไนนับว่าเป็นน้ำตกที่สูงที่สุด ที่นี่จึงมีทัศนียภาพที่สวยงาม ด้วยขนาดความกว้างราวๆ 30 เมตร น้ำตกนิไนจึงได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของเหล่าช่างถ่ายภาพ เพราะพวกเขาจะได้รูปถ่ายที่แสดงพลังความสวยงามของธรรมชาติอย่างแน่นอน

4.2 น้ำตกฟุโดะ (Fudo Falls)

น้ำตกฟุโดะเป็นน้ำตกที่โดดเด่นด้วยลักษณะของมันที่ดูคล้ายเกือกม้า โขดหินในบริเวณน้ำตกก็มีมอสสีเขียวเกาะหนา เพิ่มความสวยงามและบรรยากาศที่ดูลึกลับน่าค้นหาให้กับทิวทัศน์ของน้ำตก

4.3 น้ำตกเซนจู (Senju Falls)

น้ำตกเซนจูมีชื่อเสียงจากสายน้ำที่แตกแขนงออกเป็นชั้นๆ สร้างความงดงามเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ที่พบเห็น โดยเฉพาะเหล่านักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ซึ่งจะต้องหลงรักความสวยงามของแสงเงาอันเกิดจากสายน้ำของน้ำตกเซนจูอย่างแน่นอน

4.4 น้ำตกบิวะ (Biwa Falls)

น้ำตกบิวะเป็นน้ำตกที่จะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน ด้วยความงดงามตระการตาของสายน้ำอันกว้างใหญ่ ชั้นหินที่ค่อยๆลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้น และบรรยากาศที่เงียบสงบชวนผ่อนคลาย

4.5 น้ำตกนุโนะบิกิ (Nunobiki Waterfall)

น้ำตกนุโนะบิกิเป็นน้ำตกอันสวยสง่างามที่ตั้งอยู่ท่ามกลางผาหิน ลำน้ำของน้ำตกแห่งนี้มีลักษณะเป็นทรงยาวเรียว น้ำที่ตกลงมาเบื้องล่างมีความใส บางเบา ให้ความรู้สึกสงบสดชื่นแก่ผู้ที่มาเที่ยวชม

Back To Index

5. ท่องโลกประวัติศาสตร์แห่งการสู้รบ ณ สำนักนินจาอิงะ

“เมืองอิงะ” เป็นพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของศิลปะการต่อสู้แบบนินจาที่เรียกว่า “นินจุทสึ” ในช่วงยุคศักดินาของประเทศญี่ปุ่น เมืองอิงะได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ฝึกการต่อสู้ชั้นเยี่ยมสำหรับนินจา เนื่องจากเมืองอิงะมีลักษณะภูมิประเทศที่เหมาะแก่การฝึกสู้รบ ด้วยพื้นดินที่ไม่ได้ราบเรียบเสมอกันและป่าที่มีต้นไม้ขึ้นแน่นขนัด เหล่านินจาจึงได้ฝึกหัดการต่อสู้กับสิ่งกีดขวางเหล่านี้อย่างเต็มที่

ด้วยเหตุนี้นินจาจึงขึ้นชื่อเรื่องความเก่งฉกาจในการจารกรรมข้อมูลจากฝ่ายศัตรู การดักซุ่มโจมตี และการสู้รบแบบกองโจร เราจึงกล่าวได้ว่า “นินจา” นั้นมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์การรวมชาติของญี่ปุ่นมากทีเดียว

และในบริเวณน้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะก็เป็นที่ตั้งของ “สำนักนินจาอิงะ” (Iga Ninja Training Grounds) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนที่ปั้นนินจาระดับตำนานมามากมายนับไม่ถ้วน เมื่อมาเที่ยวชมสำนักนินจาแห่งนี้ นิทรรศการและอีเวนต์ต่างๆของที่นี่จะพาคุณไปสัมผัสกับโลกแห่งการต่อสู้อันน่าค้นหาและแสนตื่นตาตื่นใจ

Back To Index

6. กิจกรรมเด็ดที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยว “น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ” & “สำนักนินจาอิงะ”

6.1 พิพิธภัณฑ์นินจาอิงะ (Iga-ryu Ninja Museum)

พิพิธภัณฑ์นินจาอิงะ เป็นสถานที่ซึ่งเราจะได้ดำดิ่งไปในโลกแห่งการต่อสู้แบบ นินจูทสึของเหล่านินจา ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เต็มไปด้วยอุปกรณ์เครื่องใช้และอาวุธของนินจา รวมถึงมีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้ศึกษาอย่างลึกซึ้ง

ณ พิพิธภัณฑ์นินจาอิงะ เราสามารถเรียนรู้ศาสตร์แห่งการต่อสู้แบบนินจาและวิถีชีวิตของนินจาได้อย่างเต็มที่ โดยเราจะได้เรียนรู้วิธีการใช้ ‘ชุริเค็น’ (shurikens) หรืออาวุธของนินจาที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ ‘ดาวกระจาย’

นอกจากนี้เรายังสามารถลองฝึกทักษะการปีนกำแพง รวมถึงการหลบหลีกตามทางเดินลับภายในบ้านนินจาได้อีกด้วย

ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือ ตัวอาคารได้ถูกดีไซน์ให้มีลักษณะเหมือนบ้านของนินจา สถาปัตยกรรมของบ้านนั้นจะสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ โดยมีทั้งค่ายกล ทางเดินลับ ประตูลับซุกซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ เสมือนเป็นบ้านนินจาของจริง

6.2 ปราสาทอิงะอุเอโนะ (Iga Ueno Castle)

ปราสาทอิงะอุเอโนะเป็นโบราณสถานที่มีทัศนียภาพสวยงาม เราสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองอิงะได้แบบพาโนราม่าที่ด้านบนของปราสาท และสามารถศึกษาประวัติศาสตร์เกี่ยวกับนักรบซามูไรในภูมิภาคนี้ได้

6.3 เดินป่าบริเวณน้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ

พื้นที่รอบๆน้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะและสำนักนินจาอิงะนั้นเต็มไปด้วยเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม เราสามารถเดินชมธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์และจุดท่องเที่ยวต่างๆภายในย่านนี้ได้อย่างเพลิดเพลิน

6.4 อากาเมะออนเซ็น (Akame Onsen)

ที่มา (Reference) : https://www.akameonsen.com/en/

หลังจากเดินทางสำรวจที่เที่ยวมาทั้งวัน คงไม่มีอะไรดีมากไปกว่าการได้รีแล็กซ์ร่างกายที่ “อากาเมะออนเซ็น” แหล่งน้ำพุร้อนที่จะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ

*.。.*゚*.。.*゚*

หลังจากได้อ่านบทความนี้กันแล้ว เชื่อว่าหลายๆคนคงได้ซึมซับความสวยงามของธรรมชาติ ณ “น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ” และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ “สำนักนินจาอิงะ” กันอย่างเต็มอิ่ม สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ได้พาเราไปค้นพบความงดงามท่ามกลางบรรยากาศอันแสนสงบของน้ำตกอันยิ่งใหญ่ ได้ชื่นชมป่าไม้เขียวขจีที่มีความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงได้รู้เคล็ดลับการสู้รบของเหล่านินจาผู้เป็นตำนาน

เราเชื่อว่ามนตร์เสน่ห์ของสถานที่ทั้งหลายที่กล่าวมา จะทำให้ทุกคนจดจำทริปท่องเที่ยวอันแสนวิเศษในครั้งนี้อย่างไม่รู้ลืม

หากมีโอกาสได้มาเยี่ยมเยือนจังหวัดมิเอะ อย่าลืมแวะมาเที่ยว “น้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ” และ “สำนักนินจาอิงะ” กันนะ!

เว็บไซต์รถไฟฟ้าคินเท็ตสึ

อ่านบทความอื่นๆจาก fromJapan

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!

ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top