เกาะเอโนชิมะ เกาะแสนโรแมนติกใกล้โตเกียว วันเดียวก็เที่ยวได้
ก.พ. 19, 2021
ชี้เป้า! เกาะเอโนชิมะ สถานที่สุดโรแมนติกใกล้โตเกียวที่มองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิ
ถ้าอยากหลีกหนีความวุ่นวายจากตัวเมืองโตเกียว นอกจากฮาโกเนะแล้ว อีกที่หนึ่งที่เราอยากแนะนำก็คือ เกาะเอโนชิมะ (Enoshima Island) เกาะขนาดเล็กที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติสวยๆของญี่ปุ่น เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ติดชายฝั่งโชนันในเมืองฟูจิซาวะ จังหวัดคานากาวะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากของญี่ปุ่น ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวโดยรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เที่ยว 1 วันได้สบายๆมาก
บอกเลยว่าแค่มาเที่ยวเกาะเอโนชิมะที่เดียว เราก็สามารถสัมผัสกับธรรมชาติของญี่ปุ่นได้อย่างจุใจ มีทั้งทะเล ภูเขา ดอกไม้สวยๆ นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าที่คนญี่ปุ่นนิยมมาขอพรความรักอีกด้วย และในวันที่อากาศดีเราก็สามารถมองเห็นฟูจิซังได้จากที่นี่ โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตก สวยจนลืมไม่ลงแน่นอน
ที่ห้ามพลาดเลยก็คืองานประดับไฟสุดอลังการของเกาะซึ่งจัดขึ้นในช่วงฤดูหนาว บรรยากาศโรแมนติกสุดๆไปเลยล่ะ มาเก็บโมเมนต์สุดประทับใจด้วยการเติมความหวานที่เกาะเอโนชิมะกันเถอะ
และถ้าพูดถึงเกาะเอโนชิมะ หลายๆคนคงรู้จักที่นี่แน่นอน ประภาคาร Enoshima Sea Candle สัญลักษณ์แห่งเกาะเอโนชิมะ หอชมวิวเกาะเอโนชิมะ 360 องศา ซึ่งในฤดูหนาวตอนกลางคืนจะมีงานประดับไฟที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับต้นๆของภูมิภาคคันโต
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเอโนชิมะ (Enoshima Aquarium) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีสัตว์ทะเลมากมาย เราสามารถชมทัศนียภาพของอ่าวซากามิ ภูเขาไฟฟูจิ และเกาะเอโนชิมะได้จากที่นี่
ด้านหลังพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเอโนชิมะมีชายหาดให้เดินเล่นด้วยนะ หาดแห่งนี้มีชื่อว่า หาดคาตาเซะเอโนชิมะ หลังจากเดินชมพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้ว เราสามารถมาเดินเล่นที่หาดแบบชิลล์ๆพร้อมกับชมวิวสวยๆของเกาะเอโนชิมะ ยิ่งในวันที่อากาศดี หาดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งจุดจากเกาะเอโนชิมะที่เราสามารถชมวิวฟูจิซังได้ ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ภาพที่ปรากฏแก่สายตาจะสวยมากๆ ใครได้มาจะต้องประทับใจไม่รู้ลืม
และนี่ก็คือรถไฟสายเอโนชิมะ หรือที่รู้จักกันในชื่อว่ารถไฟสายเอโนะเด็น (Enoden) นั่นเอง รถไฟขบวนนี้จะวิ่งเลียบชายฝั่งทะเล เป็นรถไฟสุดน่ารักบรรยากาศดี เป็นที่นิยมมากๆเลยล่ะทุกคน
หลังจากเกริ่นถึงสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆกันมาประมาณหนึ่ง หลายๆคนก็คงเริ่มสนใจเกาะเอโนชิมะกันแล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นเราไปอ่านรีวิวของสถานที่แต่ละแห่งบนเกาะเอโนะชิมะกันเลยดีกว่าค่ะ
สารบัญ
1. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเอโนชิมะ (Enoshima Aquarium)
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเอโนชิมะ (Enoshima Aquarium) ถือเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในญี่ปุ่น ภายในพิพิธภัณฑ์มีสัตว์น่ารักๆหลายชนิดเลยล่ะ โดยด้านในจะแบ่งออกเป็น 14 โซน โซนที่โดดเด่นเลยก็คือตู้จัดแสดงสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ที่รวบรวมสัตว์น้ำลึกเอาไว้มากมาย รวมถึงโซนห้องแมงกะพรุนที่ติดอันดับเป็นหนึ่งในสถานที่จัดแสดงแมงกะพรุนที่ดีระดับโลก และที่ห้ามพลาดเลยก็คือโชว์โลมาและสิงโตทะเล นอกจากนี้ยังมีโซนที่เราสามารถสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์น่ารักๆได้อีกด้วย เช่น เพนกวิน นาก เต่าทะเล หนูยักษ์คาปิบาระ เป็นต้น
เรียกได้ว่าเป็นที่ที่เราสามารถใช้เวลาร่วมกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนรู้ใจได้เพลินๆตลอดทั้งวันเลยล่ะ
ตู้ปลาขนาดยักษ์ที่จำลองสภาพแวดล้อมของอ่าวซากามิ ภายในตู้นั้นเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลน้ำลึก ทั้งฉลาม กระเบน และปลาหลากหลายชนิด ตื่นตาตื่นใจมากๆ
อีกหนึ่งโซนที่ห้ามพลาดก็คือโซนห้องจัดแสดงแมงกะพรุน เราจะได้เห็นแมงกะพรุนสายพันธุ์ต่างๆมากมาย และยังมีมุมที่ให้ความรู้เกี่ยวกับแมงกะพรุนด้วย ใครหลงใหลความสวยงามน่าพิศวงของเจ้าแมงกะพรุน บอกเลยว่าห้ามพลาดนะ
เวทีโชว์โลมาและสิงโตทะเลของพิพิธภัณฑ์จะอยู่ติดทะเลเลย โลเคชั่นดีมากๆ ในวันที่อากาศดีเราจะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิชัดๆได้ที่ด้านหลัง การได้ดูโชว์สัตว์น้ำน่ารักๆพร้อมกับวิวสวยๆ คงเป็นบรรยากาศที่ดีสุดๆไปเลยนะ ว่าไหมทุกคน
น้อนนาก~ น้อนแมวน้ำาา~ มีสัตว์น่ารักๆมากมายที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ใครรักสัตว์จะต้องถูกใจแน่นอน
ข้อมูลของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเอโนชิมะ (Enoshima Aquarium)
วิธีเดินทาง
- นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Katase-Enoshima และเดินไปประมาณ 3 นาที
วันและเวลาทำการ
- 1 มี.ค. – 30 พ.ย. เวลา 9.00 – 17.00 น.
- 1 ธ.ค. – 28 ก.พ. เวลา 10.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม
- ผู้ใหญ่ 2,500 เยน
- มัธยมปลาย 1,700 เยน
- นักเรียนชั้นประถมและมัธยมต้น 1,200 เยน
- เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป 800 เยน
เว็บไซต์
2. บรรยากาศรอบเกาะเอโนชิมะ (Around Enoshima Island)
ในเมื่อมาถึงเกาะเอโนชิมะแล้วก็ต้องไปเดินชิลล์ชมบรรยากาศรอบเกาะ สูดกลิ่นทะเล แหงนหน้ารับลมเย็นๆกันสักหน่อย
วิวภูเขาไฟฟูจิระหว่างทางเดินข้ามสะพาน Enoshima Benten Bridge ไปยังทางเข้าเกาะเอโนชิมะ ในวันอากาศดีเราจะเห็นฟูจิซังชัดๆลูกโตๆแบบนี้ได้ที่เอโนชิมะเลย!
ทางเดินเข้าสู่เกาะเอโนชิมะ เราจะเจอกับถนน Benzaiten Nakamise ที่เต็มไปด้วยร้านอาหารทะเล ของกินขึ้นชื่อของเกาะเอโนชิมะ และของที่ระลึกมากมาย
และอย่าลืมสร้างความทรงจำดีๆที่เอโนชิมะด้วยการลิ้มลองเมนูอาหารชื่อดังของเกาะด้วยนะ เมนูดังที่ว่านี้ก็คืออย่างข้าวหน้าปลาชิราสึ หรือที่เรียกว่าเบบี้ซาร์ดีน ลักษณะจะเป็นปลาตัวเล็กๆ มีทั้งแบบดิบและสุกให้เลือกทานกันตามใจชอบ เมนูปลาชนิดนี้มีแทบทุกร้านบนถนน Benzaiten Nakamise เลย หาทานง่ายมากๆ หากกินคู่กับขิงแล้วราดโชยุ บอกเลยว่ารสชาติจะกลมกล่อม หวานอร่อยมากๆ
- พิกัดของถนน Benzaiten Nakamise : เดินข้ามสะพาน Benten Bridge มาจะพบทันที
3. ศาลเจ้าเอโนชิมะ (Enoshima Shrine)
ศาลเจ้าเอโนชิมะ หรือศาลเจ้ามังกร เป็นที่สถิตของเทพเบนไซเตนซึ่งเป็นเทพแห่งโชคลาภประจำเกาะ เทพองค์นี้โดดเด่นเรื่องการให้โชคลาภและความสำเร็จด้านศิลปะ อีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องขอพรให้ความรักยืนยาวววว ศักดิ์สิทธิ์สุดๆนะขอบอก และไม่ใช่แค่คนมีคู่ที่ขอได้ คนโสดก็มาได้นะจ๊ะ ต้องลอง!
ศาลเจ้าเอโนชิมะประกอบไปด้วยศาลเจ้าย่อยด้านในอีก 3 แห่ง คือศาลเจ้า Hetsu-miya, Nakatsu-miya และ Okutsu-miya ซึ่งทางขึ้นศาลเจ้าจะเป็นบันไดหลายขั้น หากใครไม่สะดวกเดินขึ้นก็สามารถใช้ Enoshima Escar (บันไดเลื่อน) ขึ้นไปชมด้านบนได้เหมือนกัน (มีค่าบริการเพิ่มเติม)
เราจะมาเริ่มกันที่ศาลเจ้า Hetsu-miya ศาลเจ้าที่คนนิยมมาขอพรเรื่องความรักและโชคลาภ โดยเราจะต้องเขียนคำอธิษฐานลงบนแผ่นไม้สีชมพูแบบในรูป แผ่นไม้จะตั้งอยู่ตรงด้านข้างศาลเลย ใครอยากสมหวังเรื่องความรักต้องมา หรือถ้าอยากให้ความรักยืนยาวก็แนะนำเช่นกันจ๊ะ
ขอพรศาลเดียวคงยังไม่พอ หากเดินมาเรื่อยๆเราจะเจอศาลเจ้า Nakatsu-miya จะเป็นคนโสดที่มาขอให้มีคู่หรือคนอินเลิฟที่ขอให้รักกันมากขึ้น ที่นี่ก็ศักดิ์สิทธิ์สุดๆจ้า
จากศาลเจ้า Nakatsu-miya จะมองเห็นวิวสวยๆแบบนี้ด้วยนะ ธรรมชาติสุดๆ ถ้าญี่ปุ่นได้มีโอกาสจัดงานโอลิมปิกล่ะก็ จากตรงนี้จะมองเห็นการแข่งขันเรือใบที่จัดขึ้นตรง Enoshima Yacht Harbor ด้านล่างด้วยจ้า
หากเดินมาเรื่อยๆจนเกือบถึงบริเวณด้านหลังเกาะ เราจะเจอศาล Wadatsumi-no-miya ที่อยู่ติดกับ Okutsu-miya เชื่อกันว่าเป็นที่ตั้งของถ้ำมังกรเมื่อนานมาแล้ว จุดสังเกตคือจะมีรูปปั้นมังกรเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านบน
ข้อมูลเกี่ยวกับศาลเจ้าเอโนชิมะ (Enoshima Shrine)
ที่อยู่
- Enoshima Shrine, 2-3-8 Enoshima, Fujisawa-shi, Kanagawa 251-0036 Japan
โทร
- 0466-22-4020
ค่าเข้าชม
- ไม่มีค่าเข้าชมศาลเจ้า ยกเว้นในกรณีที่ต้องการเข้าสักการะรูปปั้นเทพเบนไซเตนจะมีค่าเข้าชม 200 เยน
วันและเวลาทำการ
- ศาลเจ้าเปิดให้เข้าสักการะตลอดเวลา
- สำนักงานศาลเจ้าเปิดทำการเวลา 8.30 – 17.00 น.
- บันไดเลื่อนขึ้นศาลเอโนชิมะ (Enoshima Escar) เปิดให้บริการในเวลา 8.50 – 19.05 น.
ค่าบริการบันไดเลื่อนขึ้นศาลเอโนชิมะ (Enoshima Escar)
- ผู้ใหญ่ 360 เยน
- เด็ก 180 เยน
4. TODAI KITCHEN DELI & TEA
นั่งพักเติมพลังที่ร้านอาหารและคาเฟ่บรรยากาศสุดชิลล์ ริมระเบียงชมวิวสุดโรแมนติกที่ TODAI KITCHEN DELI & TEA
ในเอโนชิมะมีร้านอาหารและคาเฟ่ที่เราสามารถชมวิวสวยๆได้มากมาย แต่บอกเลยว่าร้านที่สามารถสัมผัสกับท้องฟ้าสีคราม น้ำทะเลสีฟ้า ความเขียวขจีของธรรมชาติ และชมวิวพระอาทิตย์ตกสีส้มเหนือภูเขาไฟฟูจิได้ในที่เดียว ยังไงก็ต้องเป็นระเบียง THE SUNSET TERRACE ของร้านนี้ ยืนหนึ่งในเอโนชิมะเลยจ้า
ร้านอาหารแห่งนี้ตั้งอยู่ด้านบนสุดของเกาะเอโนชิมะ ในพื้นที่สวนดอกไม้ Samuel Cocking Garden ไม่ไกลจากประภาคารชมวิว Enoshima Sea Candle
ที่ร้านมีเมนูอาหารที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของชายฝั่งเมืองฟูจิซาวะด้วย รสชาตินั้นแสนจะเป็นเอกลักษณ์ หาทานได้เฉพาะในพื้นที่นี้เท่านั้นจ้า (เมนูมีระยะเวลาจำกัด)
และนี่ก็คือวิวจากระเบียง THE SUNSET TERRACE ของร้าน TODAI KITCHEN DELI&TEA
แสงของท้องฟ้าตัดกับแสงสีส้มของดวงอาทิตย์พร้อมวิวฟูจิซัง เพอร์เฟ็คสุดๆ บอกเลย บรรยากาศดีมากๆ จะมากับเพื่อนหรือครอบครัวก็ดี หรือมากับแฟนก็ยิ่งประทับใจ
ยิ่งในช่วงฤดูหนาวจะมีงาน Illuminations ที่เราจะได้นั่งสวีทท่ามกลางอากาศดีๆแสงไฟสวยๆ บรรยากาศสุดโรแมนติกแบบนี้ดีต่อใจสุดๆไปเลย!
อันนี้จะเป็นบรรยากาศหน้าร้านและภายในร้าน ของจริงก็หน้าตาแบบนี้เลย จะขึ้นไปชมวิวเกาะเอโนชิมะแบบ 360 องศาบนประภาคาร Enoshima Sea Candle ที่มีความสูงประมาณ 100 เมตร แล้วค่อยลงมานั่งทานขนมชิลล์ๆก็ได้เหมือนกัน ของหวานที่นี่จะเป็นแบบ Homemade ทำใหม่ทุกวัน ลองมาชิมกันดูนะจ๊ะ
ข้อมูลเกี่ยวกับ TODAI KITCHEN DELI & TEA
เวลาทำการ
- 10:00 – 19:00 น. (เปิดให้บริการตลอดทั้งปี)
- *อาจหยุดทำการในวันที่สภาพอากาศไม่ดี
- *หยุดตามวันหยุดของประภาคาร Enoshima Sea Candle
เว็บไซต์
5. ประภาคาร Enoshima Sea Candle และสวน Samuel Cocking Garden
จากประภาคาร Enoshima Sea Candle เราจะมองเห็นวิวของเอโนชิมะได้แบบกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเลยล่ะ
หนึ่งในไฮไลต์ที่ห้ามพลาดสำหรับการมาเที่ยวเกาะเอโนชิมะก็คือ งานประดับไฟ Shonan no Hoseki หรืองานประดับไฟอัญมณีแห่งโชนัน
ประภาคาร Enoshima Sea Candle จะถูกแต่งแต้มด้วยแสงไฟสีสันสดใส สวน Samuel Cocking Garden ก็สว่างไสวด้วยแสงไฟสุดอลังการ งานประดับไฟที่นี่ได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 3 เทศกาลประดับไฟสุดยิ่งใหญ่ในภูมิภาคคันโตเลยนะ
บรรยากาศดีๆ ไฟสวยๆกับคนรู้ใจ เป็นอะไรที่เพอร์เฟ็คสุดๆ!
ดอกทิวลิปภายในสวน Samuel Cocking Garden ก็ประดับตกแต่งไฟอย่างสวยงามในช่วงที่มีงานประดับไฟ เรียกได้ว่าสวยคูณสิบไปเลย
ปกติแล้วดอกทิวลิปจะบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น แต่สวนแห่งนี้ปลูกดอกทิวลิปด้วยเมล็ดแช่แข็ง ทำให้ดอกทิวลิปที่นี่บานสะพรั่งในช่วงกลางเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนมกราคม แม้จะเป็นฤดูหนาวแต่แสงไฟสวยๆก็ทำให้ดูราวกับเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิเลยล่ะ
ดอกทิวลิปที่นี่มีจำนวนมากกว่า 20,000 ดอกเชียวนะ คุ้มค่าแก่การมาดูแน่นอน
รายละเอียดของสวน Samuel Cocking Garden
เวลาทำการ
- 9.00 – 20.00 น. (เปิดให้เข้าจนถึงเวลา 19.30 น.)
- ไม่มีวันหยุด ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
ช่วงที่จัดงานไฟประดับ
- 21 พ.ย. 63 – 7 ม.ค. 64
ค่าเข้าชมสวน
- ผู้ใหญ่ 200 เยน
- เด็ก 100 เยน
ค่าเข้าชมสวนและชมวิวบนประภาคาร
- ผู้ใหญ่ 500 เยน (สวน 200 เยน + ประภาคาร 300 เยน)
- เด็ก 250 เยน (สวน 100 เยน + ประภาคาร 150 เยน)
เว็บไซต์
วิธีการเดินทางมายังเกาะเอโนชิมะ (Enoshima Island)
สำหรับวิธีการเดินทางมายังเกาะเอโนชิมะนั้น เราสามารถมาได้ง่ายๆจากสถานีชินจูกุในโตเกียว โดยขึ้นรถไฟสาย Odakyu มาลงที่สถานี Katase-Enoshima ใช้เวลาประมาณ 65 นาที จากนั้นให้เดินออกจากสถานีแล้วตรงเข้าสู่เกาะเอโนชิมะ ซึ่งจะใช้เวลาเดินอีกประมาณ 10 นาที หรือถ้าใครมาจากฝั่งเมืองคามาคุระ ก็สามารถเดินทางมาลงที่สถานี Enoshima โดยนั่งรถไฟสาย Enoden ได้เช่นกัน เมื่อถึงแล้วให้เดินจากสถานีมายังเกาะเอโนชิมะ โดยใช้เวลาในการเดินประมาณ 15 นาที
ยิ่งถ้าใครมีพาส Hakone Kamakura Pass หรือ Enoshima Kamakura Freepass ด้วยล่ะก็ การเดินทางมาเที่ยวเกาะเอโนชิมะก็จะสะดวกและประหยัดมากขึ้นเยอะ ทำให้ทริปเอโนชิมะของเราสนุกขึ้นเป็นกอง หากใช้พาสเหล่านี้เราสามารถขึ้นลงรถไฟภายในพื้นที่ของเอโนชิมะและคามาคุระได้อย่างไม่จำกัดเที่ยว (สำหรับตั๋ว Enoshima Kamakura Freepass หากใช้นั่งจากสถานีต้นทาง – สถานีฟูจิซาวะ จะจำกัดให้ขึ้นได้ 1 ครั้ง)
นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนลดสำหรับค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆรวมอยู่ในพาสอีกด้วย คุ้มสุดๆ! โดยตั๋ว Hakone Kamakura Pass และ Enoshima Kamakura Freepass สามารถใช้เป็นส่วนลดสำหรับเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเอโนชิมะและประภาคาร Enoshima Sea Candle ได้ เพียงโชว์พาสตอนซื้อบัตรเข้าชมก็จะได้รับส่วนลด 10% จากค่าตั๋วไปเลย!
เดินทางสะดวกและมีส่วนลดให้ขนาดนี้ ต้องลองหาเวลามาเดินเล่นเพลินๆรอบเกาะเอโนชิมะกันแล้วล่ะ!
บทส่งท้าย
ส่งท้ายด้วยสถานี Katase-Enoshima ที่เพิ่งรีโนเวทใหม่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ดีไซน์ของสถานีนั้นมีต้นแบบมาจากปราสาทมังกรใต้ทะเลจากนิทานญี่ปุ่นชื่อดัง ‘อุราชิมะ ทาโร่’ นั่นเอง ใครที่ชื่นชอบประเทศญี่ปุ่นต้องเคยได้ยินชื่อนิทานเรื่องนี้แน่นอน และถ้าลองสังเกตดูดีๆเราจะเห็นว่าด้านบนหลังคาตกแต่งเป็นรูปโลมาด้วยนะ
นอกจากนี้สถานี Katase-Enoshima ยังมีตู้โชว์แมงกะพรุนของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเอโนชิมะตั้งอยู่ตรงกลางอีกด้วย เป็นสถานีที่มีเอกลักษณ์และสวยมากๆเลยล่ะทุกคน บอกได้เลยว่าเป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันมากๆ ใครเดินทางมาเที่ยวเอโนชิมะและได้ผ่านสถานีนี้ ห้ามพลาดจุดถ่ายรูปสุดฮิตตรงนี้เชียวนะ!
ข้อมูลเกี่ยวกับเกาะเอโนชิมะ (Enoshima Island)
การเดินทาง
- นั่งรถไฟสาย Odakyu มาลงที่สถานี Katase-Enoshima และเดินต่อไปยังเกาะเอโนชิมะ โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที
- หรือนั่งรถไฟสาย Enoden มาลงที่สถานี Enoshima แล้วเดินต่อไปยังเกาะ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เว็บไซต์
ที่มา
อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับเกาะเอโนชิมะ
สักการะเทพเบนไซเตนและชมไฟสวยๆที่เอโนชิมะ
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ