เที่ยว Little Edo คาวาโกเอะ 1 วัน กับ ‘เบลล์ เขมิศรา’
ก.พ. 23, 2024
เที่ยว Little Edo คาวาโกเอะ 1 วัน กับ ‘เบลล์ เขมิศรา’
สวัสดีค่ะทุกคน บทความนี้เป็นบันทึกการเที่ยว “เมืองคาวาโกเอะ” (Kawagoe) ของ “เบลล์ เขมิศรา พลเดช”
คาวาโกเอะเป็นเมืองที่อยู่ในจังหวัดไซตามะ และเป็นที่รู้จักกันในฉายา ‘Little Edo’ เพราะว่าเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนโบราณเหมือนอยู่ในยุคเอโดะนั่นเองค่ะ
และในวันนี้ เราก็จะพาทุกคนเดินเล่นชมร้านรวงและสถานที่ต่างๆในเมืองคาวาโกเอะกัน
เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าทริปคาวาโกเอะครั้งนี้ เบลล์จะไปที่ไหนมาบ้าง
สารบัญ (Index)
- 1. ‘เมืองคาวาโกเอะ’ อยู่ที่ไหน
- 2. วิธีการเดินทางไปยังคาวาโกอะ
- 3. ร้านเช่าชุดกิโมโน VASARA
- 4. “Yamaya” ภัตตาคารคฤหาสน์เก่าช่วงปลายยุคเอโดะ
- 5. ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Shrine)
- 6. หอระฆังแห่งกาลเวลา Toki no Kane
- 7. ร้าน Starbucks Kawagoe Kanetsuki Street
- 8. เดินกินที่ถนนเส้นหลัก Little Edo ถนนคุราซุคุริ (Kurazukuri Street)
- 9. ถนนคนเดิน CREA MALL
- 10. ร้านเนื้อย่าง Yakiniku Shinra Garden
1. ‘เมืองคาวาโกเอะ’ อยู่ที่ไหน
เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe City / 川越市) ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ โดยอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถไฟภายในเวลาเพียง 1 ชม.เท่านั้น
เมืองแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังจากวัดวาอาราม ศาลเจ้า และมีอาคารบ้านเรือนแบบโบราณมากมายหลากหลายสไตล์ตามยุคสมัย ด้วยเหตุนี้เมืองคาวาโกเอะจึงได้รับการขนานนามว่า “Little Edo”
2. วิธีการเดินทางไปยังคาวาโกเอะ
วิธีการเดินทางไปยังเมืองคาวาโกเอะนั้นง่ายมาก ในครั้งนี้เราเริ่มออกเดินทางจากสถานี Seibu-Shinjuku ไปลงที่สถานี Hon-Kawagoe ด้วยรถไฟด่วนของ Seibu Railway ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 45 นาทีเท่านั้น
ในทริปนี้ได้มากับเบลล์ทั้งที เราก็ต้องเลือกแนะนำวิธีการเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว และสบายที่สุด เอาเป็นว่าเราไปดูวิธีการซื้อตั๋วสุดคุ้มสำหรับการท่องเที่ยวเมืองคาวาโกเอะกันเลยดีกว่าค่ะ
ซื้อตั๋ว SEIBU KAWAGOE PASS เที่ยวคาวาโกเอะได้คุ้มตลอดทั้งวัน
ในการจะเที่ยวคาวาโกเอะให้คุ้มตลอดทั้งวันและประหยัดค่าเดินทางไป-กลับด้วย เราขอแนะนำ “SEIBU KAWAGOE PASS” บัตรรถไฟที่สามารถใช้ขึ้นรถไฟสาย Seibu Railway ไป-กลับระหว่างสถานี Seibu-Shinjuku / สถานี Takadanobaba / สถานี Ikebukuro ไปจนถึงสถานี Hon-Kawagoe ได้
บัตรใบนี้ราคาเพียง 700 เยนเท่านั้น
สามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วรถไฟด่วนพิเศษ (Limited Express Tickets) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าทางเข้าสถานี Seibu-Shinjuku บัตรนี้จะใช้ได้เฉพาะชาวต่างชาติเท่านั้นนะคะ
เอกสารที่จำเป็น
- หนังสือเดินทาง หรือบัตรพำนักอาศัยในประเทศญี่ปุ่น (กรณีเป็นผู้อาศัยในญี่ปุ่น)
อายุการใช้งาน
- 1 วัน
สำหรับวิธีการใช้งานนั้นก็ง่ายมาก แค่แสดงบัตรให้เจ้าหน้าที่ดูก็สามารถผ่านเข้าไปด้านในสถานีได้เลยทันที แต่ตอนที่เริ่มใช้บัตรครั้งแรก เจ้าหน้าที่จะทำการปั๊มวันที่บนบัตรให้ก่อนเพื่อยืนยันการเริ่มใช้งาน จากนั้นก็ไม่จำเป็นต้องปั๊มอีกแล้วจ้า
ส่วนบัตรก็ดูน่ารักเป็นลายสไตล์ญี่ปุ่นโทนสีแดง หลังจากใช้นั่งรถไฟแล้วเราก็สามารถเก็บกลับไปเป็นที่ระลึกได้ด้วย
นั่งรถไฟด่วนพิเศษ Red Arrow Limited Express
สำหรับการเดินทางที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น เราขอแนะนำรถไฟด่วนพิเศษ Red Arrow Limited Express ที่ช่วยให้สามารถเดินทางได้รวดเร็วและสะดวกสบายมากขึ้น ค่าใช้จ่ายของรถไฟด่วนพิเศษขบวนนี้ที่วิ่งจากสถานี Seibu Shinjuku ถึง Hon-Kawagoe นั้นจะอยู่ที่ราคาเที่ยวละ 600 เยนเท่านั้น!! เพิ่มนิดเดียวแต่เดินทางสบายขึ้นเยอะเลย
นอกจากนี้รถไฟ Red Arrow Limited Express ยังใช้ระบบสำรองที่นั่งในการจองด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถเลือกที่นั่งได้ตามต้องการ แม้จะต้องขึ้นรถไฟตามตารางเวลาที่กำหนด แต่ข้อดีก็คือเรามีที่นั่งอย่างแน่นอน แถมยังสามารถเอนเบาะนอนได้และมีโต๊ะสำหรับทานอาหารบริเวณที่นั่งให้ด้วย
ในครั้งนี้เบลล์เลือกที่นั่งริมหน้าต่างเพื่อจะได้ชมวิวเมืองพร้อมกับทานขนมเล็กน้อยในระหว่างเดินทาง แล้วก็อาจจะงีบได้นิดหน่อย เพราะใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 45 นาทีเราก็มาถึงสถานี Hon-kawagoe กันแล้วค่ะ
มาถึงสถานี Hon-kawagoe
ใช้เวลาเพียงแค่ 45 นาที เราก็เดินทางมาถึงสถานี Hon-kawagoe ซึ่งเป็นสถานีของเมืองคาวาโกเอะที่เบลล์จะไปเที่ยวในครั้งนี้ แต่ก่อนที่จะเริ่มการท่องเที่ยว เราพาเบลล์ไปแปลงโฉมให้เข้ากับบรรยากาศของเมือง Little Edo กันหน่อยดีกว่า
3. ร้านเช่าชุดกิโมโน VASARA
ในครั้งนี้เราพาเบลล์มาแปลงโฉมกันที่ “ร้านเช่าชุดกิโมโน VASARA สาขา KAWAGOE KOEDO store” ร้านแห่งนี้มีชุดกิโมโนและชุดยูกาตะให้เลือกหลากหลายทั้งของสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ รวมไปถึงของเด็กด้วย หากใครอยากจะแปลงโฉมให้เข้ากับบรรยากาศของเมืองแบบเบลล์ ลองแวะมาเช่าชุดที่นี่กันดูนะ
ชุดกิโมโนและยูกาตะของร้าน VASARA นั้นมีลวดลายทั้งแบบดั้งเดิมและแบบร่วมสมัยที่อินเทรนด์ไม่ตกยุค จะเป็นสไตล์ลูกไม้ สไตล์ผ้าลายเรียบที่ปักเลื่อมเป็นประกายระยิบระยับ หรือสไตล์เรโทรเรียบหรูก็มีให้เลือกกันหลากหลายสีสัน
เทรนด์ของชุดยูกาตะสมัยใหม่จะไม่เน้นลายใหญ่มากนัก แต่จะเป็นผ้าลายลูกไม้และโทนสีพาสเทล แล้วประดับลูกเล่นด้วยโอบิแบบผ้าฟูๆ ดูน่ารักร่วมสมัย
ส่วนกระเป๋าและเครื่องตกแต่งต่างๆก็มีให้เลือกทั้งสไตล์ที่เข้ากับชุดแบบดั้งเดิมและแบบร่วมสมัย สามารถเลือกให้เข้ากับชุดได้ทุกรูปแบบ
นอกจากนี้ในคอร์สยังมีบริการทำผมให้อีกด้วย สามารถตรวจสอบคอร์สเช่าชุดของทางร้านได้ที่หน้าเว็บไซต์ทางการภาษาอังกฤษ
ชุดกิโมโนที่เบลล์เลือกในครั้งนี้เป็นสไตล์เรโทร (Retro) เป็นชุดสีดำที่ปักเลื่อมเป็นประกาย เรียบหรู ดูแพง แล้วคาดโอบิสีม่วงอมชมพู ก่อนจะทับด้วยผ้าฟูด้านบนอีกชั้น ตกแต่งทรงผมด้วยปิ่นปักผมเรียบๆ ให้ลุคที่เรียบง่ายแต่หรูหรามีสไตล์
ด้านหลังโอบิจะเป็นผ้าฟูๆแบบนี้ น่ารักมาก 💖
การแต่งชุดกิโมโนในสไตล์ใหม่นี้จะนำเครื่องประดับร่วมสมัยมาแต่งเพิ่มเองก็ได้ จะใส่แว่นกันแดดหรือผูกผ้าพันคอก็ดูเข้ากันทั้งหมด ในช่วงที่อากาศหนาวแนะนำให้เอาผ้าคลุมไหล่หรือผ้าพันคอมาใส่ เพราะจะช่วยให้อุ่นด้วยค่ะ
รายละเอียดของร้านเช่าชุดกิโมโน VASARA สาขา KAWAGOE KOEDO store
เวลาทำการ
- 9:00 – 18:00 น.
เว็บไซต์
พิกัด
4. “Yamaya” ภัตตาคารคฤหาสน์เก่าช่วงปลายยุคเอโดะ
กองทัพของเราต้องเดินด้วยท้อง หลังจากที่เบลล์ได้แปลงโฉมให้เข้ากับยุคเอโดะแล้ว เราก็แวะมาทานมื้อกลางวันที่ภัตตาคาร Yamaya (料亭山屋) ที่นี่เคยเป็นคฤหาสน์เก่าของตระกูลโยโกตะในช่วงปลายยุคเอโดะถึงยุคเมจิตอนต้น ในปัจจุบันตัวอาคารของคฤหาสน์แห่งนี้ถูกสืบทอดต่อกันมาจนถึงรุ่นที่ 5 และได้เปิดเป็นภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน
ภายในร้านเป็นห้องส่วนตัวทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็นเรือนแยกทั้งหมด 7 หลังด้วยกัน ขนาดของเรือนแต่ละหลังจะขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่เข้าร่วม ส่วนบริเวณตรงกลางร้านเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติได้ตลอดทั้ง 4 ฤดูกาลของญี่ปุ่น
เมนูของร้านจะเป็นอาหารญี่ปุ่นประเภทไคเซกิทั้งหมด ภายในเซ็ตถูกแบ่งออกเป็นจานเล็กๆ โดยทางร้านได้นำวัตถุดิบประจำฤดูกาลมาปรุงอาหารอย่างพิถีพิถันและประณีต เพื่อดึงเอาความอร่อยของวัตถุดิบออกมา ได้บรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นสุดๆ
เบลล์ตื่นเต้นกับอาหารไคเซกิมื้อนี้ และประทับใจกับรสชาติอาหาร
เบลล์ : “อร่อยมาก! เห็นจานเล็กๆแบบนี้อิ่มเหมือนกันนะเนี่ย ดูน้อยแต่อิ่มมากเลย”
รายละเอียดของภัตตาคาร Yamaya
เวลาทำการ
- 11:30 – 19:00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
เว็บไซต์
พิกัด
5. ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Shrine)
ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Shrine) เป็นหนึ่งในศาลเจ้าประจำเมืองคาวาโกเอะ จังหวัดไซตามะ ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 1,500 ปีก่อน อีกทั้งยังเป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเมืองคาวาโกเอะ ผู้คนที่เดินทางมายังศาลเจ้าแห่งนี้ส่วนใหญ่จะมีเป้าหมายในการมาขอพรเรื่องความรักหรือไม่ก็มาผูกดวงสำหรับคู่แต่งงาน และที่นี่ยังรับจัดงานแต่งงานอีกด้วย
ในช่วงฤดูร้อนศาลเจ้าแห่งนี้จะได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีงานเทศกาลกระดิ่งลมจัดขึ้นที่นี่ทุกปี ผู้คนจำนวนมากนิยมมาสักการะและสะสมเครื่องรางลิมิเต็ดของช่วงฤดูร้อน รวมถึงถ่ายรูปบรรยากาศของกระดิ่งลมที่ถูกประดับอยู่ทั่วศาลเจ้า
แม้ว่าในครั้งนี้เราจะมากันในช่วงหน้าหนาว แต่ความสนุกและความงดงามของศาลเจ้าก็ไม่ได้ลดลงเลย กิจกรรมทั่วไปของศาลเจ้าที่นอกเหนือจากงานเทศกาลกระดิ่งลมก็ยังคงปฏิบัติได้เช่นเดิม ในครั้งนี้เบลล์ก็เดินทัวร์รอบศาลเจ้าและหามุมถ่ายรูปได้เพียบเลย
ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะได้รับความนิยมในการขอพรเรื่องความรัก แม้แต่ “ป้ายเอมะ” (絵馬) ที่เอาไว้ใช้สำหรับเขียนคำอธิษฐานก็ยังเป็นรูปชุดแต่งงานดั้งเดิมของญี่ปุ่น น่ารักมากๆค่ะ
บริเวณด้านขวาของทางเข้าศาลเจ้าจะมีธารน้ำเล็กๆอยู่ คุณสามารถนำกระดาษรูปคนที่ทางศาลเจ้าเตรียมไว้มาล่องในธารน้ำแห่งนี้เพื่อเป็นการชำระล้างจิตใจได้ กระดาษจะละลายและหายไปกับน้ำเอง แค่ได้มองสายน้ำไหลก็ช่วยทำให้จิตใจสงบได้
บริเวณสวนด้านหลังที่เชื่อมกับด้านหลังศาลเจ้ามีดอกสึบากิบานอยู่ ดูเข้ากับชุดกิโมโนที่เบลล์ใส่มากๆ
หากคุณมาที่นี่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ บริเวณด้านหลังศาลเจ้าจะมีถนนซากุระที่ทอดยาวไปตลอดริมฝั่งแม่น้ำด้วย ส่วนในช่วงฤดูหนาวที่เรามากันครั้งนี้ก็มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาที่ศาลเจ้ากันเป็นจำนวนมาก ไม่แพ้ช่วงฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คนหนาแน่นมากที่สุดเพราะงานเทศกาลกระดิ่งลมเลย
อุโมงค์ป้ายคำอธิษฐานเอมะ นับเป็นเอกลักษณ์ของศาลเจ้าฮิคาวาคาวาโกเอะแห่งนี้
อีกหนึ่งความพิเศษของศาลเจ้าแห่งนี้คือ ‘เซียมซีปลาไท’ (鯛みくじ) เซียมซีของศาลเจ้าญี่ปุ่นที่อื่นมักจะมาในรูปแบบการจับฉลาก แต่เซียมซีของศาลเจ้าแห่งนี้จะมาในรูปแบบของการตกปลา คุณสามารถใช้เบ็ดตกปลาในบ่อขึ้นมาได้เลย ใบคำทำนายจะอยู่ที่ใต้ท้องปลาค่ะ
เบลล์ : “ตกได้แล้ววววว!!!”
ทุกคน : “ผลเป็นไงบ้าง?”
เบลล์ (เปิดกระดาษเซียมซี) : “เย้!! ได้โชคดีสุด!!”
รายละเอียดของศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ
วิธีการเดินทาง
- นั่งรถประจำทางจากหน้าสถานี Hon-Kawagoe Station โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที
- หากเดินจากสถานี Hon-Kawagoe Station จะใช้เวลาประมาณ 25 นาที
เวลาทำการ
- 8:00 – 18:00 น.
เว็บไซต์
พิกัด
6. หอระฆังแห่งกาลเวลา Toki no Kane
จุดแลนด์มาร์กของเมืองคาวาโกเอะคือ “หอระฆังแห่งกาลเวลา Toki no Kane” (時の鐘) ว่ากันว่าหอระฆังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1627 ช่วงต้นยุคเอโดะ ระฆังบนหอนี้เป็นระฆังที่คอยบอกเวลาให้คนในเมืองได้รู้
แม้ในปัจจุบันทุกคนจะมีนาฬิกาแล้วก็ตาม หอระฆังแห่งนี้ก็ยังคงดังทุกวัน วันละ 4 เวลา คือ 6:00, 12:00, 15:00, 18:00 และหอระฆังแห่งกาลเวลา Toki no kane ก็ยังถูกจดทะเบียนให้เป็นทรัพย์สมบัติที่ควรค่าแก่การรักษาของเมืองคาวาโกเอะด้วยค่ะ
ด้วยความที่บริเวณแถวหอระฆังเป็นจุดท่องเที่ยวหลัก ที่นี่จึงมีคนเยอะมาก ในระหว่างที่ถ่ายรูป เบลล์ก็แวะไปซื้อสตาร์บัคส์และมันม่วงทอดที่เป็นของขึ้นชื่อเมืองคาวาโกเอะมาทานซะเลย
พิกัด
7. ร้าน Starbucks Kawagoe Kanetsuki Street
ร้านสตาร์บัคส์ สาขาหอระฆัง Toki no Kane (Starbucks Kawagoe Kanetsuki Street) เป็นหนึ่งในสตาร์บัคส์สาขาที่มีดีไซน์พิเศษ โดยได้รับการออกแบบมาให้เข้ากับสไตล์อาคารในเมืองแห่งนี้ ภายนอกจะเป็นเรือนไม้สไตล์เอโดะ ส่วนด้านในมีการผสมผสานความโมเดิร์นเอาไว้ สตาร์บัคส์สาขานี้จึงเป็นสาขาที่หลายคนแวะมาเช็คอินเมื่อมาถึงคาวาโกเอะ
บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยงานไม้ผสมผสานกับสไตล์โมเดิร์นร่วมสมัย โดยบริเวณด้านข้างและด้านในสุดของร้านจะมีโซนที่นั่งในสวนด้านนอก เราจึงสามารถสัมผัสบรรยากาศของธรรมชาติในสวนได้ตลอดทั้ง 4 ฤดูกาล
นอกจากนี้ภายในร้านยังมีการตกแต่งด้วยรูปภาพในช่วงปลายยุคไทโชไปจนถึงยุคโชวะ และมีการนำ Kawagoe Tozan (川越唐桟) ซึ่งเป็นศิลปะการทอผ้าของชาวคาวาโกเอะที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ยุคเอโดะมาประดับที่เบาะที่นั่งภายในร้านด้วย
เบลล์ : “ได้กาแฟแก้วแรกของวันแล้ว ดีใจจัง ร้านสวยมาก ไว้มาอีกดีกว่า”
รายละเอียดของร้านสตาร์บัคส์ สาขาคาวาโกเอะ
เวลาทำการ
- 8:00 – 20:00 น.
เว็บไซต์
พิกัด
8. เดินกินที่ถนนเส้นหลัก Little Edo ถนนคุราซุคุริ (Kurazukuri Street)
ถนนสายหลักของเมืองคาวาโกเอะที่ทุกคนนิยมมาท่องเที่ยวคือ ถนนคุราซุคุริ (Kurazukuri Street / 蔵造りの町並み) ถนนสายนี้เต็มไปด้วยอาคารไม้เรือนเก่าสีดำทอดยาวตลอดถนนทั้งสองฝั่ง มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของชำจำนวนมาก
ในครั้งนี้เบลล์ก็ได้แวะไปหลายร้านด้วยกัน ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีร้านอะไรบ้าง
🏠 ร้าน Miffy Storehouse Kitchen & Bakery

Illustrations Dick Bruna © copyright Mercis bv, 1953-2024 www.miffy.com
สำหรับร้านแรกของถนนคุราซุคุริ เรามากันที่ Miffy Storehouse Kitchen & Bakery สาขาคาวาโกเอะ คาแรกเตอร์กระต่ายสุดแสนน่ารักขวัญใจของใครหลายคน ที่สาขานี้นอกจากจะมีสินค้าที่ระลึกแบบลิมิเต็ดประจำเมืองคาวาโกเอะแล้ว อีกฝั่งครึ่งหนึ่งของร้านยังเป็นร้านเบเกอรี่สุดแสนน่ารักลาย Miffy ด้วย

Illustrations Dick Bruna © copyright Mercis bv, 1953-2024 www.miffy.com
สินค้า Miffy ที่เป็นของลิมิเต็ดประจำเมืองคาวาโกเอะก็น่าซื้อเก็บสะสมหรือนำไปเป็นของฝากอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นจานรองโชยุหรือขนมของฝากต่างๆก็มีทั้งนั้น
เบลล์ได้ซื้อขนมปัง Miffy มาลองทานแล้วหนึ่ง น่ารักสดใสเข้ากับเบลล์มาก ❤️
เบลล์ : “จะทานแล้วน๊า~ อ้ำ~! หูยย อร่อยย มีไส้ถั่วแดงด้วยอ่ะ!!”
รายละเอียดของร้าน Miffy Storehouse Kitchen & Bakery
เวลาทำการ
- 10:00 – 18:00 น.
- ฤดูหนาว : ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. – 5 มี.ค. เปิดเวลา 10:00 – 17:30 น.
เว็บไซต์
พิกัด
“KAWAGOE PUDDING” ร้านพุดดิ้งแห่งเมืองคาวาโกเอะที่ใช้วัตถุดิบของเมืองคาวาโกเอะในการทำทั้งหมด ทางร้านได้ตั้งใจทำขนมอย่างประณีตจนออกมาเป็นพุดดิ้งแสนอร่อยให้ทุกคนได้ลองทานกัน
วัตถุดิบที่ใช้ทำพุดดิ้งนั้นถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะส่วนผสมหลักอย่างนมและไข่ จนออกมาเป็นพุดดิ้งที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มนวลลื่นคอ กลิ่นหอมของวานิลลานั้นก็ลงตัวจนใครๆที่ลองซื้อมาทานต่างก็ต้องตกใจกันทุกคนเลย แถมเรายังซื้อเพิ่มกลับไปเป็นของฝากอีกด้วย
เอาล่ะ เบลล์ได้คาวาโกเอะพุดดิ้งรสมันม่วงมาแล้ว พุดดิ้งรสนี้เป็นเมนูแนะนำของทางร้าน เพราะมันม่วงคือของขึ้นชื่อของเมืองนี้ไง! ดูซิว่าจะอร่อยสมคำร่ำลือไหม
จากการที่นำมันม่วงมาผสมลงไปในเนื้อพุดดิ้ง เราจึงรู้สึกได้ถึงความหวานและความเข้มข้นของมันม่วงทั้งถ้วย แถมยังผสมกับมองต์บลังค์มันม่วงที่โปะไว้ด้านบนและมันม่วงทอดที่ประดับอยู่ด้านบนสุดอีกด้วย พุดดิ้งถ้วยนี้ได้รสมันม่วงเต็มคำตั้งแต่ชั้นบนยันชั้นล่างสุดเลย!! เป็นการผสมผสานความอร่อยทั้ง 4 แบบไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ไม่มีทางที่จะไม่อร่อยเลย แต่มันจะอร่อยจริงไหมให้เบลล์ลองเลยดีกว่า
เบลล์ : “อร่อยมาก!!!” (จากนั้นก็ไปซื้อเพิ่มอีกถ้วย)
รายละเอียดของร้านพุดดิ้ง KAWAGOE PUDDING
เวลาทำการ
- 10:30 – 17:00 น.
เว็บไซต์
พิกัด
“MANIMIMACHI COFFEE” ร้านกาแฟที่มีชื่อเรียกว่า “มินามิมาจิ” มาตั้งแต่สมัยเอโดะ ทางร้านตั้งใจจะให้ที่นี่เป็นที่นั่งพักของเมืองอันแสนครึกครื้นแห่งนี้ ส่วนเมนูของร้านนั้นเรียบง่าย มีเครื่องดื่มเบสิคและเมนูมันเผาที่เป็นของขึ้นชื่อของเมืองคาวาโกเอะ โดยทางร้านจะเน้นไปที่การใส่ใจรายละเอียดในการทำแต่ละเมนูให้อร่อย คุณสามารถเลือกทานขนมที่ทำจากมันเผาได้หลากหลายรูปแบบจากร้านนี้ อีกทั้งยังมีร้านขายสินค้ามันม่วงที่ชื่อว่า “Imokawa” (芋川) อยู่ภายในร้านด้วย
เมนูเบสิคยอดฮิตที่ทางร้านแนะนำคือ ‘Yakiimo Latte’ และ ‘Yakiimo Brulee’
ผู้ที่ชื่นชอบการทานมันม่วงแสนอร่อยของญี่ปุ่นจะต้องรักเมนูนี้แน่นอน “Yakiimo Latte” เมนูเครื่องดื่มที่อัดแน่นไปด้วยความอร่อยของมันเผา โดยมีครีมเย็นๆโปะอยู่ด้านบนกาแฟลาเต้ร้อนๆ เมื่อดื่มเข้าไปแล้วจะรู้สึกได้ถึงความลงตัวระหว่างร้อนกับเย็น รสชาติความหวานมันก็กำลังดี
ส่วนเมนู “Yakiimo Brulee” (มันม่วงเผาครีม) เป็นเมนูที่นำมันเผามาย่างด้วยน้ำตาลซาลาเมะ (ザラメ糖) อีกที เพื่อทำให้ด้านหน้าของมันม่วงที่ถูกเผาด้วยครีมนั้นมีความกรอบขึ้น เมื่อกัดมันเผาทั้งคำแล้วจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มและกรอบไปพร้อมๆกันในคราเดียว เคี้ยวกรุบ อร่อย และเป็นความหวานสองแบบที่ลงตัวดีมากๆ
เบลล์ : “ไหน ชิมหน่อยซิ”
เบลล์ : “อื้มมมม มันหวานอร่อยมาก!! หอม!!”
รายละเอียดของร้าน MINAMIMACHI COFFEE
เวลาทำการ
- 9:00 – 19:00 น.
เว็บไซต์
พิกัด
9. ถนนคนเดิน CREA MALL
ก่อนจะไปทานมื้อเย็นกัน เราก็แวะมาเดินเล่นที่ “CREA MALL” ถนนคนเดินที่มีห้างสรรพสินค้าตั้งอยู่ด้วย ถนนสายนี้มีร้านค้าโลคอลและร้านอาหารโลคอลของเมืองคาวาโกเอะจำนวนมาก แถมยังมีร้านขนม ร้านค้าต่างๆ รวมถึงร้านเสื้อผ้ามือสองด้วย เบลล์ได้แวะเดินไปดูร้านค้าต่างๆอย่างเพลิดเพลินเลย
แล้วเบลล์ก็ได้เสื้อใหม่จากร้านขายเสื้อผ้ามือสองที่ชื่อว่า BIG TIME มาค่ะ
รายละเอียดของถนนคนเดิน CREA MALL
เว็บไซต์
พิกัด
10. ร้านเนื้อย่าง Yakiniku Shinra Garden
เราปิดท้ายทริปนี้ด้วยเนื้อย่างเป็นมื้อเย็น ณ ร้าน Shinra Garden สาขา Kawagoe Hachiman Street ร้านเนื้อย่างแห่งนี้เป็นร้านที่คนท้องถิ่นแนะนำมา ลองไปดูกันซิว่าจะอร่อยขนาดไหน
ที่หน้าร้านมีรูปปั้นวัวสีทองเห็นเด่นชัด
ภายในร้านมีที่นั่งจำนวนมาก เมนูของร้านก็มีหลากหลายในราคาที่เป็นมิตร เช่น เซ็ตเนื้อวากิว A5 สำหรับ 2-3 ท่าน ราคาเพียง 5,555 เยนเท่านั้น!! (*ราคาในช่วงปี 2024)
นอกจากนี้อาหารจำพวกผักหรือกับแกล้มอื่นๆก็อร่อยไม่แพ้กัน เคล็ดลับความอร่อยนั้นมาจากคุณแม่ของเจ้าของร้านซึ่งเป็นชาวเกาหลี โดยคุณแม่เป็นคนคุมสูตรของกิมจิและผักทั้งหลายนั่นเอง
เซ็ตเนื้อวัววากิว A5 สุดอลังการ! (สำหรับ 2-3 ท่าน)
เบลล์พร้อมแล้ว ย่างเนื้อทานกันเลย!!
เริ่มกันที่เมนูแรก เมนูนี้เป็นเมนูแนะนำของทางร้าน ‘Kuroge Wagyu Yukke’ เนื้อวัวคุโรเกะวากิวจุ่มไข่
ก่อนอื่นให้นำเนื้อสไลด์แผ่นบางกำลังดีไปย่างบนเตาให้พอสุกเพียงเล็กน้อย จากนั้นห่อด้วยแตงกวา แล้วเสิร์ฟคู่กับไข่แดงดิบ
ย่างเนื้อเล็กน้อย > วางแตงกวา > เอาเนื้อพันแตงกวา
จากนั้นห่อให้เรียบร้อยก็เป็นอันเสร็จ!!
เบลล์ : “ไหนลองทานสิ อื้มมมมม!! อร่อยมากกก!!”
อีกหนึ่งเมนูแนะนำคือ ซูชิเนื้อ!!!
ทางร้านใช้เนื้อส่วนที่มีไขมันน้อยมาทำ จึงเป็นเนื้อที่ดีต่อสุขภาพ และยังเป็นส่วนที่ยิ่งเคี้ยวความหวานก็ยิ่งออกมา เพียงแค่จุ่มซอสพอนสึ ซอสเนื้อย่าง หรือวาซาบิเพียงเล็กน้อยก็อร่อยแล้ว เพราะเนื้อเขาดีอยู่แล้ว!
วาซาบิช่วยดึงความหวานของเนื้อออกมาได้ดีมาก ❤️
นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆอีกมากมายในราคาที่เป็นมิตร หากใครมาถึงเมืองคาวาโกเอะแล้วกำลังตามหาร้านเนื้อย่างอยู่ ก็ลองแวะมาที่ร้านนี้กันดูนะ
รายละเอียดของร้าน Yakiniku Shinra Garden สาขา Kawagoe Hachiman Street
เวลาทำการ
- 7:00 – 23:00 น. (หยุดทุกวันอังคาร)
การเดินทาง
- จากสถานี Hon-kawagoe ประตูทางออกฝั่งทิศตะวันออก เดินมาประมาณ 7 นาทีก็จะถึงร้าน
เว็บไซต์
พิกัด
*.。.*゚*.。.*゚*
หากใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม “เมืองคาวาโกเอะ“ หรือ Little Edo แห่งนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีสำหรับทริปไปเช้าเย็นกลับของคุณอย่างแน่นอน
เมืองคาวาโกเอะนั้นสามารถเดินทางจากตัวเมืองหลักโตเกียวได้ภายในเวลาเพียง 1 ชม.เท่านั้น และยังสามารถใช้บัตร SEIBU KAWAGOE PASS ที่ช่วยให้การเดินทางง่ายขึ้นและประหยัดยิ่งขึ้นอีกด้วย
หากได้มาเที่ยวญี่ปุ่น ลองมาตามรอยเบลล์ที่ “คาวาโกเอะ” กันดูนะ 🎵
อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับจังหวัดไซตามะ
- เที่ยวธรรมชาติที่ ‘จิจิบุ’ 1 วัน กับ ‘เบลล์ เขมิศรา’
- COME SEE SEIBU! เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว สัมผัสหิมะขาวและไฟประดับ ณ เมืองจิจิบุ
- รวมที่เที่ยวเด็ดใน ‘จิจิบุ’ จังหวัดไซตามะ
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ
แท็กยอดนิยม
แชร์บทความนี้
Klook.com
บทความแนะนำจังหวัดใน
ภูมิภาค
พื้นที่

จังหวัด ฮอกไกโด

จังหวัด โอกินาว่า

จังหวัด โตเกียว

จังหวัด คานากาวะ

จังหวัด ชิบะ

จังหวัด ไซตามะ

จังหวัด กุนมะ

จังหวัด อิบารากิ

จังหวัด โทชิงิ