fbpx

ทำไมแท็กซี่ญี่ปุ่นถึงเปิดประตูอัตโนมัติ?

พ.ค. 28, 2020

ทำไมแท็กซี่ญี่ปุ่นถึงเปิดประตูอัตโนมัติ?

ที่มา : David Hall / flickr

เพื่อนๆเคยใช้บริการแท็กซี่ในญี่ปุ่นกันไหมคะ?

เชื่อว่าทุกคนที่เคยไปญี่ปุ่นน่าจะเคยใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะของบ้านเขา ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าหรือรถบัส และทุกคนคงรู้ว่ามันสะดวกสบายมากๆเลย~

แต่เวลาที่เรารีบๆ หรือตอนดึกๆที่รถไฟฟ้ากับรถบัสไม่วิ่งแล้ว เพื่อนๆทำยังไงกันคะ?

แน่นอนว่าก็คงหนีไม่พ้น…การโดยสารรถแท็กซี่นั่นเอง!!

ผู้เขียนขอสารภาพเลยค่ะว่าครั้งแรกที่ขึ้นแท็กซี่ญี่ปุ่น เราตกใจมาก เพราะประตูมันเปิดเองได้!!

วันนี้เราเลยจะมาเล่าให้เพื่อนๆฟังถึงเหตุผลที่รถแท็กซี่ญี่ปุ่นมีระบบเปิด-ปิดประตูอัตโนมัติค่ะ ^^

เป็นรูปแบบของการต้อนรับ

ที่มา : Mic / flickr

การที่ประตูรถแท็กซี่เปิดเองได้นับว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของการต้อนรับอย่างอบอุ่นตามวิถีของวัฒนธรรมญี่ปุ่นค่ะ

ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่เรารีบๆแถมยังมีของพะรุงพะรังเต็มมือ การที่ประตูเปิดให้เองจะทำให้เรารู้สึกเหมือนได้รับการต้อนรับอย่างดี

แถมวิธีนี้ยังสะดวกต่อทั้งผู้โดยสารและคนขับรถด้วยค่ะ ลองนึกภาพวันที่ฝนตกแล้วคนขับยังต้องลงมาเปิดประตูให้เรา แบบนี้ก็ค่อนข้างลำบากเขาเหมือนกันนะ จริงไหมคะ

นอกจากนี้ ประตูอัตโนมัติยังเป็นนวัตกรรมที่สร้างความสะดวกสบายต่อผู้พิการอีกด้วยค่ะ

เพื่อป้องกันอาชญากรรม

ตอนรู้เหตุผลข้อนี้ เราแอบตกใจนิดหน่อยค่ะว่าประตูอัตโนมัติจะช่วยป้องกันอาชญากรรมได้ยังไง

แต่ถ้าลองคิดดูดีๆ การที่ประตูด้านหลังเปิดให้เราเลยก็คือการไกด์ให้เราไปนั่งด้านหลังนั่นเอง เป็นการเว้นระยะห่างระหว่างคนขับและผู้โดยสารค่ะ

ถึงญี่ปุ่นจะขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ปลอดภัยเพราะอัตราการเกิดคดีอาชญากรรมต่ำมากๆ แต่ยังไงเราเซฟตัวเองไว้ก่อนน่าจะดีที่สุดค่ะ เพื่อความสบายใจของทั้งคนขับและผู้โดยสารเนอะ ^^~

ขนาดของรถแท็กซี่

จริงๆแล้วรถแท็กซี่ในช่วงปี 1950 นั้นยังไม่ใหญ่เท่าขนาดปัจจุบันค่ะ สมัยนั้นคนขับสามารถเอื้อมมือไปเปิดประตูให้ผู้โดยสารจากที่นั่งคนขับได้เลย แต่เมื่อปี 1960 ขนาดของรถเริ่มกว้างขึ้น ทำให้คนขับไม่สามารถเอื้อมไปเปิดประตูให้ได้แล้วค่ะ

ในตอนนั้นเอง บริษัท Osaka Tonbo Taxi ก็ได้คิดค้นนวัตกรรมประตูเปิด-ปิดอัตโนมัติขึ้นมา จนกลายมาเป็นแท็กซี่ญี่ปุ่นอย่างที่เราเห็นในปัจจุบันค่ะ!

.

เป็นยังไงกันบ้างคะ?

เบื้องหลังนวัตกรรมที่เราสามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวันนั้น จริงๆแล้วยังมีเรื่องราวและความใส่ใจเล็กๆน้อยๆแฝงอยู่ด้วย ซึ่งมันเป็นสิ่งที่แสดงถึงวิถีแห่งการต้อนรับอย่างอบอุ่นของชาวญี่ปุ่นได้ดีเลยค่ะ

แล้วจะไม่ให้รักประเทศนี้ได้ยังไงเนอะ > <!!

อ่านบทความอื่นๆจาก fromJapan

 

Back To Top