ไหว้ท่านเทพจิ้งจอก & เทพแห่งน้ำที่ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ศาลเจ้าชิโมกาโมะ และศาลเจ้าคามิกาโมะ

ธ.ค. 04, 2019

Clip

ไหว้ท่านเทพจิ้งจอก & เทพแห่งน้ำที่ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ศาลเจ้าชิโมกาโมะ และศาลเจ้าคามิกาโมะ

หากเดินทางมาถึงจังหวัดเกียวโตแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือการมาเที่ยว 3 ศาลเจ้าเก่าแก่ชื่อดังอย่าง ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ศาลเจ้าชิโมกาโมะ และศาลเจ้าคามิกาโมะ เพราะศาลเจ้าสามแห่งดังกล่าวนับว่าเป็นสิ่งที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นเกียวโตอย่างแท้จริง

และวันนี้ fromJapan จะพาทุกคนไปเดินชิลล์ชมสถาปัตยกรรมโบราณ พร้อมทั้งสักการะเทพเจ้าที่ศาลเจ้าอันทรงคุณค่าเหล่านี้กัน

หากใครพร้อมแล้วก็ตามเรามาเที่ยวกันได้เลย!

สารบัญ (Index)

1. ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine)
2. ศาลเจ้าชิโมกาโมะ (Shimogamo Jinja Shrine)
3. ศาลเจ้าคามิกาโมะ (Kamigamo Jinja Shrine)

1. ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine)

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) เป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าใหญ่แห่งเมืองเกียวโต (อีก 2 แห่งคือศาลเจ้าคิตาโนะเทนมังกุและศาลเจ้ายาซากะ) และเป็นศาลเจ้าใหญ่ที่สุดในบรรดาศาลเจ้าสายอินาริหรือสายเทพแห่งเกษตรกรรม ฟูชิมิอินารินับเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของเกียวโต เพราะที่นี่ถูกสร้างมาก่อนที่เกียวโตจะได้เป็นเมืองหลวงในปี ค.ศ. 794 ซะอีก

จุดสังเกตแรกเมื่อเดินเข้ามาภายในพื้นที่ศาลเจ้าแห่งนี้ก็คือรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกจำนวนมาก เหตุผลที่ศาลเจ้านี้มีรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกอยู่เยอะ นั่นก็เพราะว่าสุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ประจำตัวของเทพอินารินั่นเอง

บริเวณอาคารหลักของศาลเจ้าเป็นจุดที่ผู้คนนิยมไปไหว้สักการะขอพรจากเทพอินาริ โดยส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นจะขอพรกันเรื่องการค้าขายและการเงิน

แต่ทั้งนี้ จุดประสงค์ในการมาเที่ยวศาลเจ้าฟูชิมิอินาริของผู้คนส่วนใหญ่นั้นไม่ใช่การสักการะขอพรจากเทพเจ้า แต่เพื่อชื่นชมเสาประตูสีแดงที่เรียกว่า ‘โทริอิ’ นั่นเอง

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริเป็นศาลเจ้าที่มีเสาโทริอิสีแดงเรียงกันเป็นระยะทางยาวที่สุดในญี่ปุ่นเลยล่ะครับ รวมแล้วน่าจะเป็นพันๆต้นได้เลยล่ะ เสาโทริอิในบริเวณนี้มีชื่อเรียกว่า เซนบอน โทริอิ (Senbon Torii) หรือ เสาประตูโทริอิหนึ่งพันเสา (The Thousands of Torii Gates) เสาโทิริอิจำนวนมหาศาลเหล่านี้สร้างขึ้นจากเงินบริจาคโดยบุคคลและองค์กรต่างๆ โดยจะมีการสลักชื่อผู้บริจาคและวันที่บริจาคเอาไว้ด้านหลังเสาแต่ละต้น การบริจาคมีค่าใช้จ่ายประมาณ 400,000 เยนสำหรับเสาขนาดเล็ก ส่วนเสาขนาดใหญ่อาจมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งล้านเยน

ทีนี้เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว หลายๆคนถึงกับบ่นออกมาว่า “โอ้โห คนเพียบเลย” แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะ ถึงจะถ่ายรูปได้โดยที่ไม่ติดคน?

บอกได้เลยว่าไม่ต้องกังวลไปครับ ให้ทุกคนเดินไปตามทางเรื่อยๆจนเจอจุดที่แนวเสามีความโค้ง แนวโค้งของเสาจะทำให้บางจังหวะเราสามารถถ่ายรูปให้ไม่ติดคนอื่นได้อย่างที่เห็นในรูปนี้ครับ ยังไงก็กะจังหวะดีๆหน่อยแล้วกันนะครับ

ทั้งนี้สองรูปด้านบนเป็นพื้นที่บริเวณเดียวกันนะครับ แต่เป็นการหันไปถ่ายจากคนละด้าน ส่วนตัวผมชอบด้านที่เห็นตัวอักษรคันจิบนเสามากกว่า เพราะมันทำให้ภาพดูขลังดี แต่อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยครับ

ที่มา : https://www.japan-guide.com/e/e3915.html

สำหรับคนที่พอจะมีเวลาและฟิตหน่อยก็สามารถเดินไปเรื่อยๆจนถึงยอดเขาได้นะครับ บนนั้นจะมีวิวแบบนี้ให้ดู กว่าจะถึงยอดก็ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง แต่รอบนี้ผมมีเวลาไม่พอเลยเดินไม่ถึงครับ

ในส่วนของเครื่องรางที่นี่ก็จะมีโมทีฟสุนัขจิ้งจอกเยอะหน่อย เครื่องรางขึ้นชื่อจะเป็นเครื่องรางสายการเงิน การค้าขาย และเครื่องรางเปิดดวง นอกจากนี้เครื่องรางสอบผ่านก็ดังนะ แต่ในเกียวโตมีศาลเจ้าที่โด่งดังกว่าในด้านเครื่องราง นั่นก็คือศาลเจ้าคิตาโนะเทนมังกุ ซึ่งผมจะเขียนถึงในบทความต่อไปครับ (ส่วนศาลเจ้านอกเกียวโตที่ดังเรื่องเครื่องรางจะเป็นศาลเจ้าดาไซฟุเทนมังกุ อันนี้คิดว่าคนที่ชอบเที่ยวญี่ปุ่นคงรู้จักกันดีอยู่แล้วนะครับ)

ส่วนบริเวณรอบๆศาลเจ้าจะมีร้านขายของที่ระลึก มีของที่ระลึกเป็นโมทีฟสุนัขจิ้งจอกเพียบเลยเช่นกันครับ

นอกจากนี้ยังมีร้านขายซูชิเต้าหู้ทอดด้วยนะ เหตุผลที่ต้องเป็นซูชิเต้าหู้ทอดเพราะเชื่อกันว่าสุนัขจิ้งจอกชอบกินเต้าหู้ทอดครับ (ตรงบริเวณที่ไหว้ขอพรกับกล่องใส่เหรียญมีคนเอาเต้าหู้ทอดมาวางไว้เหมือนกัน เข้าใจว่าคงเอามาแก้บนตามที่ได้เคยบนบานอะไรสักอย่างเอาไว้)

ข้อมูลของศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ

ที่อยู่

Fushimi Inari Taisha 68 Fukakusa Minanouchi-cho, Fushimi-ku, Kyoto 612-0882, Kyoto Prefecture

เบอร์โทร

75-641-7331

วันเวลาทำการ

ศาลเจ้าเปิดให้ไหว้สักการะทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
สำนักงานศาลเจ้าเปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7:00 น. – 18:00 น.

ค่าเข้าชม

ไม่มีค่าเข้าชม

การเดินทาง

รถบัส : สำหรับใครที่มีบัตร Kyoto Bus 1 Day Pass (ราคา 600 เยน) หากมาจากสถานี Kyoto สามารถขึ้นรถบัสสาย 5 minami ไปลงที่ป้าย Fushimiinaritaisha-mae โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที แล้วเดินต่ออีกประมาณ 7 นาที
รถไฟ : จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถไฟ JR ไปลงที่สถานี Fushimi-inari (ใช้เวลาเดินทาง 5 นาที / ราคา 120 เยน) แล้วเดินต่ออีก 2 นาที

เว็บไซต์

http://inari.jp/en/

Back To Index

2. ศาลเจ้าชิโมกาโมะ (Shimogamo Jinja Shrine)

ศาลเจ้าชิโมกาโมะ (Shimogamo Jinja Shrine) เป็นหนึ่งในศาลเจ้าพี่น้องของศาลเจ้าคามิกาโมะ ศาลเจ้าแห่งนี้เป็น 1 ใน 17 แหล่งมรดกโลกของยูเนสโกในเกียวโต

คำว่าชิโมกาโมะหมายถึง ‘แม่น้ำคาโมะเบื้องล่าง’ เนื่องจากเป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ตรงจุดที่แม่นํ้าทาคาโนะและแม่น้ำคาโมะไหลมาบรรจบกัน เชื่อกันว่าศาลเจ้าชิโมกาโมะนั้นสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเทมมูช่วงปี ค.ศ. 675-686 เพื่อบูชาเทพเจ้า Kamo Taketsunuminomikoto, เทพเจ้า Tamayori-hime และเทพเจ้า Kamimusubi

ผมจะขอเล่าถึงเทพ Kamimusubi ก่อนแล้วกันนะครับ ว่ากันว่าท่านเป็นเทพเจ้าแห่งความรักโดยตรงเช่นเดียวกับเทพโอคุนินูชิ ดังนั้นท่านจึงเหมาะสมกับการขอพรเรื่องความรัก

จุดที่เราสามารถขอพรกับเทพ kamimusubi ได้ก็คือบริเวณที่เห็นในรูปซึ่งอยู่ห่างจากอาคารหลักเล็กน้อยครับ

ในบริเวณเดียวกันนี้ยังมีการเขียนกระดาษขอพรที่มีสีสันสวยงามด้วย

ทีนี้มาดูข้างในกันบ้าง ที่นี่มีศาลเจ้าย่อยๆอยู่ข้างในเยอะมาก พอเห็นแบบนี้แล้วอาจจะงงว่าเราต้องไหว้ยังไงหว่า?

เพราะงั้นเรามาดูตามป้ายกันดีกว่าครับ ศาลเจ้าเหล่านี้เป็นศาลย่อยที่ผู้คนจะไปไหว้ตามปีนักษัตรกันครับ เดี๋ยวจะอธิบายนะครับว่าควรไหว้ยังไงบ้าง (จะไหว้ก่อนหรือหลังจากไหว้หอหลักก็ได้ครับ หอหลักจะอยู่ในบริเวณเดียวกันนั่นแหละ)

志固男神 (shikonokami) เทพแห่งพละกำลัง สำหรับคนเกิดปีเถาะและปีระกา
大己貴神 (onamuchinokami) เทพแห่งยา สำหรับคนเกิดปีขาลและปีจอ
八千矛神 (yachihakonokami) เทพผู้ปราบอธรรม สำหรับคนเกิดปีมะโรงและปีวอก
顕国魂神 (utsushikunitamanokami) เทพผู้ปกป้องประเทศ สำหรับคนเกิดปีมะเมีย
大国魂神 (okunitamanokami) เทพแห่งแผ่นดิน สำหรับคนเกิดปีมะเส็งและปีมะแม
大物主神 (omononushinokami) เทพแห่งการเดินทะเล สำหรับคนเกิดปีฉลูและปีกุน
大国主神 (okuninushinokami) เทพแห่งความรัก สำหรับคนเกิดปีชวด

ที่มา : https://wikiwiki.jp/heian/

มาว่ากันถึงเทพอีกองค์กันหน่อยดีกว่า นี่คือเทพ Kamo Taketsunuminomikoto หรือเทพยาตะการาสุ ซึ่งก็คือ ‘เทพอีกาดำ’ นั่นเอง ท่านเป็นเทพแห่งชัยชนะ การค้าขาย การเกษตร และการเรียนครับ

ที่มา : https://yaoyoro.net/

สุดท้ายคือเทพ Tamayorihime หรือเทพแห่งแม่น้ำ (พระแม่คงคาเวอร์ชั่นญี่ปุ่นนั่นเอง) ท่านเป็นเทพแห่งการแก้ชง การขอบุตร และความรักครับ (อีกแล้ว ญี่ปุ่นนี่มีเทพแห่งความรักเยอะแฮะ) ซึ่งเทพสององค์นี้เวลาขอพรก็ต้องขอตรงหอกลางนั่นล่ะครับ

ที่มา : https://journey-of-japan.com/article/266/thai

ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่นี่จะมีการจัดพิธีกรรมชำระล้าง ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อชำระล้างสิ่งไม่ดีออกไป และในวันที่ 15 พฤษภาคมของทุกปีจะมีเทศกาลอาโออิมัตสึริ ซึ่งเป็นเทศกาลใหญ่อีกเทศกาลหนึ่งของเกียวโตนอกเหนือไปจากเทศกาลกิองของศาลเจ้ายาซากะ (ตรงบริเวณในรูปภาพสามารถเสี่ยงเซียมซีลอยน้ำได้ด้วย)

เรียกได้ว่าเป็นศาลเจ้าที่ครบเครื่องมากๆแห่งหนึ่งเลยครับ มาไหว้ที่นี่ที่เดียวเหมือนได้ทุกอย่างเลยนะเนี่ย

และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เครื่องรางที่นี่ขึ้นชื่อว่าเด็ดดวงมากๆสำหรับสายรวมมิตรความสมปราถนา เพราะเราจะได้พลังอัดแน่นมาในเครื่องรางอันเดียวเลยครับ

สำหรับเครื่องรางที่โด่งดังที่สุดก็คือเครื่องรางเจ้าหญิง เชื่อกันว่าจะช่วยเสริมดวงให้กับเจ้าของเครื่องรางที่เป็นคุณสุภาพสตรีในทุกๆด้านเลยล่ะครับ

ข้อมูลของศาลเจ้าชิโมกาโมะ