รวมที่เที่ยว ‘ภูมิภาคชูบุ’ เสน่ห์ญี่ปุ่นภาคกลาง ทรงคุณค่าทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม
ส.ค. 29, 2023
บทนำ : ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
ภูมิภาคชูบุ (Chubu) ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของเกาะฮอนชู ประกอบด้วย 9 จังหวัดคือ จังหวัดไอจิ (Aichi) จังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka) จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) จังหวัดนากาโนะ (Nagano) จังหวัดกิฟุ (Gifu) จังหวัดนีงาตะ (Niigata) จังหวัดโทยามะ (Toyama) จังหวัดอิชิกาวะ (Ishikawa) และจังหวัดฟุกุอิ (Fukui)
ชูบุเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตของผู้คนและวัฒนธรรมที่หลากหลาย หากเพื่อนๆคนไหนเป็นสายเที่ยวพิพิธภัณฑ์ ปราสาท หรือเมืองเก่าแก่ ภูมิภาคนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีในแง่ของการท่องเที่ยวสไตล์ย้อนยุคเลยล่ะ! แถมชูบุยังเป็นที่ตั้งของแหล่งมรดกโลกที่มีชื่อเสียงอย่างมากอีกด้วยนะ
นอกจากนี้ชูบุยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์งดงาม อีกทั้งยังมีออนเซ็นท่ามกลางวิวสวยๆหลายแห่ง และยังมีจุดชมวิวภูเขาฟูจิดีๆด้วยนะ~ ยิ่งไปกว่านั้น อาหารของจังหวัดต่างๆในภูมิภาคชูบุยังล้วนมีเอกลักษณ์ด้านรสชาติและวิธีการกินด้วยค่ะ
ครบครันทั้งที่เที่ยวและของอร่อยแบบนี้ แถมยังเดินทางมาจากเมืองหลวงได้โดยใช้เวลาไม่นาน เชื่อว่าหลายๆคนคงอยากรู้จัก “ภูมิภาคชูบุ” กันมากขึ้นแล้ว ดังนั้นมาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าชูบุจะมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง 😊
สารบัญ (Index) : ภูมิภาคชูบุ
- จังหวัดไอจิ (Aichi Prefecture)
- จังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka Prefecture)
- จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi Prefecture)
- จังหวัดนากาโนะ (Nagano Prefecture)
- จังหวัดกิฟุ (Gifu Prefecture)
- จังหวัดนีงาตะ (Niigata Prefecture)
- จังหวัดโทยามะ (Toyama Prefecture)
- จังหวัดอิชิกาวะ (Ishikawa Prefecture)
- จังหวัดฟุกุอิ (Fukui Prefecture)
1. จังหวัดไอจิ (Aichi Prefecture)
จังหวัดไอจิ (Aichi Prefecture) ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น โดยอยู่ตรงกลางระหว่างโซนจังหวัดสำคัญอย่างโตเกียวและโอซาก้า จังหวัดนี้ค่อนข้างถูกมองข้ามในแง่ของการท่องเที่ยว เพราะดันอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวตัวท็อปของญี่ปุ่นอย่างโอซาก้า เกียวโต และมิเอะ (ถูกมองข้ามจนคนส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยว่านี่คือจังหวัด พานคิดไปว่านาโกย่าเป็นจังหวัด ทั้งที่นั่นเป็นเพียงเมืองหนึ่งของจังหวัดไอจิ)
จริงๆแล้วไอจิเป็นจังหวัดที่มีความน่าสนใจในแง่การท่องเที่ยวอยู่มาก เพราะที่นี่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยในอดีตจังหวัดนี้เคยเป็นฐานที่มั่นของ 3 ขุนพลผู้รวมชาติญี่ปุ่น คือโอดะ โนบุนากะ, โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ และโทคุกาวะ อิเอยาสึ ด้วยเหตุนี้ไอจิจึงมีจุดท่องเที่ยวที่เป็นปราสาทอยู่หลายแห่ง
และต่อมาในช่วงที่อุตสาหกรรมเฟื่องฟู จังหวัดไอจิก็เป็นฐานการผลิตของบริษัทชื่อดังอย่างโตโยต้า ที่นี่จึงมีจุดท่องเที่ยวเกี่ยวกับโตโยต้าอย่าง ‘พิพิธภัณฑ์รถยนต์โตโยต้า’ ด้วย ถ้าใครเป็นสายความรู้ก็น่าจะชอบจังหวัดนี้มากๆเลย เพราะมีพิพิธภัณฑ์เพียบ! แถมมีหลากหลายแนวด้วย ส่วนสายถ่ายรูปชมวิวก็มีจุดสวยๆให้ไปตามเก็บภาพอยู่เช่นกัน และเนื่องจากจังหวัดนี้มีเมืองใหญ่อย่างนาโกย่า สายช้อปปิ้งย่อมไม่ผิดหวัง
สำหรับอาหารประจำท้องถิ่นแสนอร่อยของจังหวัดไอจิที่เราอยากให้ทุกคนไปลองกันก็คือ มิโสะคัตสึ กับ คิชิเมน
มิโสะคัตสึ (Miso Katsu) เป็นเมนูที่แตกต่างจากหมูทอดทงคัตสึทั่วไปตรงซอสที่ทำจากมิโสะ (ซอสนี้เรียกว่า Misodare) และมิโสะที่ใช้ทำซอสดังกล่าวก็ไม่ใช่มิโสะทั่วๆไปด้วย แต่เป็นมิโสะที่เรียกว่า ‘มาเมะมิโสะ’ (Mamemiso) หรือมิโสะชนิดหนึ่งที่ผลิตเฉพาะในแถบนี้ มาเมะมิโสะที่มีชื่อเสียงคือ ‘ฮัตโจมิโสะ’ (Hatcho Miso) ซึ่งเป็นมิโสะขึ้นชื่อของจังหวัดไอจิ รสชาติของซอสมิโสะที่ว่านี้จะมีความหวานและเข้มข้น
คิชิเมน (Kishimen) เป็นอุด้งแบบเส้นแบนที่ให้รสสัมผัสต่างจากอุด้งแบบเส้นกลม โดยส่วนใหญ่จะเสิร์ฟเป็นแบบน้ำซุปใสที่มีรสชาติค่อนข้างหวานและใส่เครื่องต่างๆ เช่น ลูกชิ้นคามาโบโกะบางๆ ผักปวยเล้งลวกราดซีอิ๊วและแผ่นเต้าหู้ทอด และโรย Katsuobushi (ปลาโอแห้งฝอย) หรือต้มเส้นอุด้งสดๆด้วยน้ำซุปที่ทำจากมิโสะแดง ‘มาเมะมิโสะ’ ซึ่งเป็นมิโสะท้องถิ่นขึ้นชื่อของจังหวัดไอจิ รวมทั้งวัตถุดิบอื่นๆ เช่น เห็ดหอม ซุปที่ทำจากมิโสะดังกล่าวนี้มีรสชาติเข้มข้น แต่พอทานเสร็จแล้วจะไม่รู้สึกเลี่ยน (ส่วนตัวชอบแบบหลังมากกว่า)
- อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดไอจิได้ที่นี่ : 15 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดไอจิ’ ที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง!
2. จังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka Prefecture)
จังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka Prefecture) เป็นที่รู้จักดีในฐานะที่ตั้งของภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอย่าง ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) นอกจากนี้ ‘จังหวัดชิซูโอกะ’ ยังมีพื้นที่ติดกับจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi Prefecture) และติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific Ocean) อีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จังหวัดชิซูโอกะจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคาบสมุทรอิสึ (Izu Peninsula) วัดชูเซ็นจิ (Shuzenji Temple) และมิชิมะสกายวอล์ค (Mishima Skywalk)
ยิ่งไปกว่านั้น ‘จังหวัดชิซูโอกะ’ ยังเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากโตเกียวและโอซาก้าด้วย ดังนั้นจังหวัดนี้จึงกลายเป็นที่เที่ยวยอดนิยมประจำวันหยุดสุดสัปดาห์ของคนญี่ปุ่น เพราะสามารถเดินทางมาจากเมืองใหญ่ได้ง่ายนั่นเอง
ส่วนของกินแสนอร่อยของชิซูโอกะก็คงจะหนีไม่พ้น ชาเขียว กับ ข้าวหน้าปลาไหล ของเมืองฮามามัตสึค่ะ
- อ่านบทความเกี่ยวกับเมืองฮามามัตสึ >> เที่ยวเมืองฮามามัตสึ 2 วัน กับสารพันที่เที่ยวทุกแบบทุกสไตล์
หากพูดถึงชิซูโอกะ แต่ไม่พูดถึงชาเขียวด้วยก็คือผิดมหันต์!
เพราะแหล่งผลิตชาเขียวที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นนั้น คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก ‘จังหวัดชิซูโอกะ’ แห่งนี้!
การปลูกชาเขียวในญี่ปุ่นนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากศตวรรษที่ 13 ในขณะที่ภิกษุนามว่า โชอิจิ โคคุชิ (Shoichi Kokushi) กำลังธุดงค์ในประเทศจีนอยู่นั้น จู่ๆท่านก็ตัดสินใจซื้อเมล็ดพันธุ์ชาดำกลับมาเพาะที่ญี่ปุ่น โดยสถานที่ที่ท่านเลือกปลูกชาดำนั้นก็อยู่ที่ชิซูโอกะ นับจากนั้นเป็นต้นมา ชิซูโอกะก็กลายเป็นแหล่งผลิตชาเขียวที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น หากเพื่อนๆได้มาชิซูโอกะล่ะก็ ชาเขียวนี่แหละคือสิ่งที่ห้ามพลาด!
อุนางิ (Unagi) หรือ ปลาไหลน้ำจืด (Freshwater Eel) เป็นวัตถุดิบเลื่องชื่อประจำเมืองฮามามัตสึในจังหวัดชิซูโอกะ เนื่องด้วยเมืองนี้เป็นที่ตั้งของทะเลสาบฮามานาโกะ (Lake Hamanako) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของทะเลสาบที่มีน้ำใสบริสุทธิ์ราวกับคริสตัล จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ปลาไหลของเมืองฮามามัตสึจะยืนหนึ่งในญี่ปุ่นเรื่องความอร่อยมาเนิ่นนานกว่าร้อยปี
หากใครมาเที่ยวที่ฮามามัตสึก็อย่าลืมมาชิมข้าวหน้าปลาไหลย่างของดีประจำเมืองนี้กันน๊า!
- อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดชิซูโอกะได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดชิซูโอกะ’ ที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง!
3. จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi Prefecture)
จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi Prefecture) เป็นจังหวัดหนึ่งในญี่ปุ่นที่ชื่ออาจจะไม่คุ้นหูใครหลายๆคน แต่เราเชื่อว่าถ้าพูดถึงภูเขาไฟฟูจิแล้วล่ะก็ รับรองได้ว่าใครๆก็ต้องรู้จัก! จุดขายหลักของจังหวัดยามานาชิคือภูเขาไฟฟูจินี่แหละค่ะ (หมายเหตุ : เป็นจุดขายหลักร่วมกับจังหวัดชิซูโอกะด้วย)
เราสามารถดื่มด่ำกับวิวสวยๆของฟูจิได้อย่างเต็มที่ ณ ยามานาชิ โดยมีฉากประกอบอันสวยงามอย่างทะเลสาบทั้งห้าที่อยู่รอบภูเขาไฟฟูจิ รวมถึงจุดชมวิวต่างๆ ซึ่งหลายๆจุดนั้นก็ได้กลายมาเป็นโปสเตอร์นำเที่ยวญี่ปุ่นที่เราคุ้นตากันเป็นอย่างดี
ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากโตเกียว คือเดินทางแค่ประมาณ 2 ชั่วโมง ยามานาชิจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ดีในการทำเป็น side trip ร่วมกับโตเกียวค่ะ
อาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดยามานาชิที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ โฮโตนาเบะ กับ ฟูจิมาบุชิ
โฮโตนาเบะ (Hoto Nabe) เป็นอาหารประจำท้องถิ่นของจังหวัดยามานาชิ เมนูนี้เป็นหม้อไฟที่ประกอบไปด้วยเส้นสีขาวคล้ายอุด้ง แต่มีลักษณะแบนและกว้างกว่าเส้นอุด้ง เส้นจะถูกนำมาต้มรวมกับผักตามฤดูกาลในน้ำซุปที่ทำจากมิโซะ กลิ่นหอมของน้ำซุปมิโซะอันแสนเข้มข้นนั้นเข้ากันอย่างลงตัวกับกลิ่นหอมของผักต้มที่ผสมเส้นแป้งสาลี
เมื่อรับประทานโฮโตนาเบะ เราจะรู้สึกเหมือนทุกส่วนผสมละลายอยู่ในปากเลยทีเดียว
นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว โฮโตนาเบะยังเป็นเมนูหม้อไฟเพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยวิตามินและเส้นใยอาหารจากผักตามฤดูกาลอีกด้วย
นี่คืออาหารที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษในช่วงนี้!
ฟูจิมาบุชิ (Fuji Mabushi) เป็นเมนูอาหารที่ทำจากข้าว โดยปรุงกับปลาเทราท์ที่จับได้ในทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ จุดเด่นของเมนูนี้คือมีวิธีกินถึง 3 แบบ ได้แก่
- กินเลยโดยไม่ต้องปรุง
- ปรุงด้วยเครื่องเทศนิดหน่อย
- เทน้ำซุปชาลงไปในข้าวแบบ Ochazuke
เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่สามารถอร่อยได้ถึง 3 วิธีในเมนูเดียว!
- อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดยามานาชิได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดยามานาชิ’ ที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง!
4. จังหวัดนากาโนะ (Nagano Prefecture)
จังหวัดนากาโนะ (Nagano Prefecture) เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงอย่างมากเรื่องการท่องเที่ยวสายธรรมชาติ โดยเฉพาะภูเขา รวมไปถึงทัศนียภาพในฤดูกาลต่างๆที่เต็มไปด้วยสีสันอันแสนงดงาม ส่วนการเดินทางมาจังหวัดนี้ก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จังหวัดนากาโนะจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทั้งสำหรับคนญี่ปุ่นและคนต่างชาติ
นอกจาก ‘นากาโนะ’ จะมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงแล้ว แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน หากย้อนเวลากลับไปเมื่อปี 1998 ที่ญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาว และ ‘จังหวัดนากาโนะ’ ก็เป็นสถานที่จัดงานในครั้งนั้น เราจึงไม่ต้องกังวลเรื่องที่พักดีๆหรือแหล่งช้อปปิ้งที่สะดวกครบครันเลย
สำหรับอาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดนากาโนะที่เราอยากให้ทุกคนไปลิ้มลองกันก็คือ ซันโซคุยากิ กับ องุ่นนากาโนะ
ซันโซคุยากิ เป็นของกินขึ้นชื่อของเมืองมัตสึโมโตะ เมนูนี้เป็นเนื้อไก่หมักซอสโรยด้วยแป้งมันแล้วนำไปย่างไฟ นอกจากนี้ซันโซคุยากิยังมีกรรมวิธีการทำอีกแบบหนึ่งด้วย นั่นก็คือการทอด โดยเป็นการทอดเพื่อให้แป้งด้านนอกมีรสสัมผัสกรุบกรอบ แต่เนื้อด้านในชุ่มฉ่ำไปด้วยรสของซอสเทริยากิที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับเนื้อไก่
องุ่นนากาโนะ (Nagano Purple) เป็นองุ่นสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างองุ่นพันธุ์เคียวโฮ (Kyohou) และพันธุ์ริซาแมท (Rizamat) จุดเด่นคือลูกใหญ่เต็มปากเต็มคำดี ส่วนรสชาตินั้นไม่ต้องบรรยายก็รู้เลยว่าอร่อยแน่นอน! เพราะทันทีที่กัดไปคำหนึ่ง รสสัมผัสแรกที่เราจะได้รับก็คือความกรุบของเปลือกองุ่น ตามมาด้วยความหวานฉ่ำที่พร้อมจะกระจายไปทั่วปากของเราโดยอัตโนมัติ
ที่พิเศษกว่านั้นคือองุ่นนากาโนะไม่มีเมล็ดค่ะ เราจึงทานได้อย่างเพลิดเพลินใจ ไม่ต้องเคี้ยวไปกังวลไปว่าจะต้องคายเมล็ดทิ้งตอนไหน และนี่ก็ถือเป็นข้อดีอันแสนประเสริฐในการกินผลไม้เลยทีเดียว
- อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดนากาโนะได้ที่นี่ : รวม 20 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดนากาโนะ’ ที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง!
5. จังหวัดกิฟุ (Gifu Prefecture)
เมื่อพูดถึง ‘จังหวัดกิฟุ’ หลายๆคนคงอุทานว่า “เอ๋ มันคือที่ไหนกัน?” แต่ถ้าเราพูดถึง ‘หมู่บ้านชิราคาวาโกะ’ ล่ะ? ทีนี้หลายๆคนคงร้องอ๋อกันแน่ๆ
จังหวัดกิฟุ (Gifu Prefecture) เป็นที่ตั้งของ ‘ชิราคาวาโกะ’ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยที่ได้รับการยกย่องโดยองค์การยูเนสโกให้เป็น ‘หมู่บ้านมรดกโลก’ แต่จริงๆแล้วกิฟุไม่ได้มีดีแค่ชิราคาวาโกะเพียงอย่างเดียว เพราะทั้งจังหวัดนั้นเรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมของ ‘เมืองเก่าเรโทร’ ที่สวยมากๆหลายเมืองเลยล่ะ
นอกจากเมืองเก่าสไตล์เรโทรแล้ว ด้วยความที่กิฟุมีเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่น (Japan Alps) ล้อมรอบ จังหวัดนี้จึงมีจุดชมวิวสวยๆน่าไปถ่ายรูปแนวธรรมชาติอยู่หลายแห่ง
อีกทั้งยังมีแหล่งออนเซ็นให้ได้นั่งแช่น้ำร้อนให้หายเหนื่อยพร้อมกับดูวิวสวยๆไปพร้อมกันได้ โดยกิฟุเป็นเพียงไม่กี่จังหวัดในญี่ปุ่นที่ต่อกรกับจังหวัดเจ้าพ่อออนเซ็นอย่างกุนมะได้อย่างสูสี เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะกิฟุเป็นที่ตั้งของ 1 ใน 3 ออนเซ็นที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นไงล่ะ!
สำหรับอาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดกิฟุที่ต้องมาลองทานกันให้ได้ก็คือ เนื้อฮิดะ กับ โกเฮโมจิ
เนื้อฮิดะ (Hida Beef) คือเนื้อวากิวชั้นเยี่ยมจากวัวที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีในจังหวัดกิฟุ วัวเหล่านี้จะถูกเลี้ยงดูเป็นเวลาอย่างน้อย 14 เดือน และเป็นโคขุนที่ได้รับการประเมินมาตรฐาน BMS (Beef Marbling Standard : ลายไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อ)
เนื้อวัวที่ผ่านมาตรฐานการประเมินนี้จะต้องได้คะแนนเกรด A และ B รวมถึงมีคุณภาพอันดับ 3, 4, 5 ตามเกณฑ์การให้เกรดเนื้อติดกระดูกที่ประเมินโดยสมาคมจัดเกรดเนื้อของญี่ปุ่น
เนื้อวัวที่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าวเท่านั้น ถึงจะถูกจัดว่าเป็น ‘เนื้อฮิดะ (Hida Beef)’
จุดเด่นที่ทำให้เนื้อฮิดะแตกต่างจากเนื้อวากิวชนิดอื่นๆก็คือ ไม่ว่าส่วนไหนของเนื้อก็ล้วนมีไขมันลายหินอ่อนแทรกอยู่ เนื้อชนิดนี้จึงมีรสชาติหวานมัน อร่อย เข้มข้น
โกเฮโมจิ (Gohei Mochi) เป็นเมนูซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็นอาหารที่ทำขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งการเกษตร โมจิชนิดนี้ได้มาจากการนำข้าวใหม่ที่เพิ่งเก็บเกี่ยวได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงมาหุงให้สุก จากนั้นก็บดให้พอแหลก ก่อนจะนำไปปั้นเป็นก้อนแบนๆห่อหุ้มแท่งไม้
เมื่อปั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำข้าวเสียบไม้ไปย่างให้พอสุก แล้วจึงนำมารับประทานกับซอสที่ทำมาจากส่วนผสมของมิโซะ น้ำตาล มิริน เติมด้วยงาบด ถั่ววอลนัตบด หรือจะเป็นถั่วลิสงบดก็ได้เช่นกัน แล้วแต่ว่าใครจะชอบแบบใด
กลิ่นและรสชาติที่หอมหวานของข้าวย่างใหม่ๆนั้นเข้ากันได้ดีกับซอสที่มีส่วนผสมของมิโสะ โกเฮโมจิจึงเป็นเมนูยอดนิยมอีกอย่างหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยหากมาเที่ยวที่กิฟุ
- อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดกิฟุได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดกิฟุ’ ที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง!
6. จังหวัดนีงาตะ (Niigata Prefecture)
จังหวัดนีงาตะ (Niigata Prefecture) เป็นจังหวัดที่สามารถแบ่งพื้นที่ออกได้ 3 เขตด้วยกัน คือ โจเอ็ทสึ (Joetsu) จูเอ็ทสึ (Chuetsu) และคาเอ็ทสึ (Kaetsu)
ทั้งนี้ในแง่ของการท่องเที่ยวนั้น ถ้าหากกล่าวถึงจังหวัดนีงาตะ ภาพของลานสกียามหน้าหนาวก็จะลอยเข้ามาในหัวทันทีเลย เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องสกีรีสอร์ตมากๆจนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกเลยทีเดียว
นอกจากสกีรีสอร์ตแล้ว จังหวัดนีงาตะยังมีภูมิประเทศที่น่าทึ่งอีกด้วย เพราะที่นี่ถูกล้อมรอบด้วยทะเลญี่ปุ่นที่แสนสวยงาม เรียกได้ว่าทิวทัศน์ธีมทะเลของนีงาตะนั้นไม่แพ้ที่ใดแน่นอน และอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นความสุดยอดของจังหวัดนีงาตะก็คือข้าวและสาเก เพราะว่ากันว่าข้าวและสาเกของจังหวัดนี้อร่อยเป็นที่ 1 ของญี่ปุ่นเลยล่ะ
อย่างไรก็ดี สถานที่ท่องเที่ยวภายในนีงาตะนั้นยังมีจุดที่น่าสนใจอีกไม่น้อยเลย อย่างปราสาททาคาดะที่แสนยิ่งใหญ่ หรือวนอุทยานที่แสนร่มรื่น ทุกสถานที่ก็ล้วนควรค่าแก่การไปโดนสักครั้งจริงๆ
สำหรับอาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดนีงาตะที่เราอยากให้ทุกคนไปลิ้มลองกันก็คือ เต้าหู้ทอด กับ ซาซาดังโงะ
เต้าหู้ทอด (Tochio Fried Tofu) เป็นอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของเมืองโทชิโอะ (Tochio) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของจังหวัดนีงาตะ เมนูนี้ครองใจชาวเมืองโทชิโอะมานานกว่า 300 ปี พออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เพื่อนๆคงสงสัยว่าเจ้าเต้าหู้ทอดของเมืองโทชิโอะเป็นเมนูแบบไหนกันนะ เราจะมาเฉลยให้ฟังกันค่ะ
เต้าหู้ทอดเมืองโทชิโอะเป็นเมนูเต้าหู้ทอดที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เพราะเขาใช้เต้าหู้ที่ชิ้นหนากว่าปกติเพื่อดึงเอารสชาติของถั่วเหลืองออกมาให้เข้มข้นกว่าปกติ และเมื่อนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆแล้ว เขาก็จะเสิร์ฟพร้อมกับซีอิ๊วปรุงรสแบบโฮมเมดที่มีรสชาติยอดเยี่ยม
ซาซาดังโงะ (Sasa Dango) เป็นโมจิรสหญ้าโยโมกิสีเขียวเข้ม (Dark Green Yomogi Flavored Mochi) ที่มีไส้ข้างในเป็นถั่วแดงกวนและห่อด้วยใบไผ่อีกที ทั้งนี้ซาซาดังโงะถือเป็นขนมประจำจังหวัดนีงาตะเลยก็ว่าได้ ด้วยกลิ่นหอมหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของใบโยโมกิ ผสมผสานกับรสหวานกลมกล่อมของถั่วแดงกวน บวกกับแป้งโมจิเหนียวนุ่ม ซาซาดังโงะจึงถือเป็นองค์ประกอบของขนมพื้นเมืองที่สุดยอดมากเลย
ถ้าเพื่อนๆอยากลองลิ้มรสซาซาดังโงะก็สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปและร้านขายของที่ระลึกในนีงาตะค่ะ
- อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดนีงาตะได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดนีงาตะ’ ที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง!
7. จังหวัดโทยามะ (Toyama Prefecture)
จังหวัดโทยามะ (Toyama Prefecture) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ ‘ภูมิภาคชูบุ’ และมีอาณาเขตติดกับทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan) เช่นเดียวกับจังหวัดใกล้เคียงอย่างจังหวัดอิชิกาวะ จังหวัดกิฟุ จังหวัดนากาโนะ และจังหวัดนีงาตะ ยิ่งไปกว่านั้นเมืองโทยามะ (Toyama City) ที่เป็นเมืองหลักของ ‘จังหวัดโทยามะ’ ก็เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของเมืองปราสาทที่สวยงามและจุดศูนย์กลางทางการแพทย์ของญี่ปุ่นด้วย
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงประจำ ‘จังหวัดโทยามะ’ นั้น เราสามารถพบได้ทั้งในเมืองโทยามะ (Toyama City) เมืองคุโรเบะ (Kurobe City) และเมืองนันโตะ (Nanto City) ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโทยามะ (Toyama Castle) หรือจะเป็นทริปชมความงามของศิลปะการหลอมแก้วในพิพิธภัณฑ์ศิลปะแก้วโทยามะ (Toyama Glass Art Museum)
หรือถ้าใครชอบแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติก็สามารถไปชมทิวทัศน์สีเขียวอันงดงามของหุบเขาคุโรเบะ (Kurobe Gorge) กันได้นะ นี่เรายังไม่ได้เกริ่นถึงมรดกโลกอย่างหมู่บ้านโกคายามะ (Gokayama Village) ด้วยนะเนี่ย~ เราเชื่อว่าคงมีเพื่อนๆที่เริ่มอยากมาเที่ยวที่นี่กันบ้างแล้วใช่ไหมล่ะ
สำหรับอาหารประจำท้องถิ่นของจังหวัดโทยามะที่เราอยากให้ทุกคนไปลิ้มลองกันก็คือ ราเมนน้ำดำโทยามะ กับ ปลาบุริ
ราเมนน้ำดำโทยามะ (Toyama Black Ramen) เป็นเมนูราเมนน้ำดำต้นตำรับของญี่ปุ่นซึ่งบอกได้เลยว่า ใครมาโทยามะแล้วไม่ได้ทานราเมนน้ำดำถือเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่สุด! (ขนาดนั้นเลยเชียว? 555)
แม้ว่าสีน้ำซุปของราเมนถ้วยนี้จะทำให้ทุกคนรู้สึกได้ถึงความเค็มไปตามๆกัน แต่รสชาติที่แท้จริงกลับกลายเป็นรสอ่อนๆและทานง่ายมาก เพราะส่วนประกอบของน้ำซุปมีเพียงซอสโชยุเข้มข้นที่เคี่ยวกับอาหารทะเลและกระดูกไก่ ส่วนตัวเส้นราเมนและท็อปปิ้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับวิธีการทำของแต่ละร้าน
ปลาบุริ (Buri/Yellowtail Amberjack fish) เป็นวัตถุดิบจากท้องทะเลจังหวัดโทยามะที่แสนอร่อยและมีชื่อเสียงโด่งดัง ยิ่งไปกว่านั้น คนที่นี่ยังมีความเชื่อกันมาตั้งแต่สมัยอดีตว่าปลาบุริเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี ด้วยเหตุนี้คนญี่ปุ่นจึงนิยมให้ปลาบุริเป็นของขวัญแก่ครอบครัวที่กำลังจะมีเจ้าตัวเล็กกัน
อย่างไรก็ดี เพื่อนๆสามารถหาบุริซาชิมิทานได้ง่ายๆตามร้านอาหารในจังหวัดโทยามะเลยค่ะ
- อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดโทยามะได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดโทยามะ’ ที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง!
8. จังหวัดอิชิกาวะ (Ishikawa Prefecture)
จังหวัดอิชิกาวะ (Ishikawa Prefecture) เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่คนไทยไม่ค่อยคุ้นชินกับชื่อและมักจะถูกมองข้าม แต่ความจริงแล้วที่นี่มีของดีให้เที่ยวอยู่หลายแห่ง ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำจังหวัดอิชิกาวะโดยเน้นไปที่โซนเมืองคานาซาวะและละแวกใกล้เคียงกันค่ะ
ในอดีต ‘เมืองคานาซาวะ’ นั้นเป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองของตระกูลมาเอดะ ตระกูลไดเมียวท้องถิ่นซึ่งมีอำนาจเป็นรองก็แค่ตระกูลโทคุกาวะแห่งเอโดะ คานาซาวะเป็นเมืองที่มีความเจริญทางการค้าเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีโซนเมืองโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนมีคนเปรียบเทียบว่าเป็น “ลิตเติ้ลเกียวโต” (เป็นเหมือนเกียวโตที่คนไม่แออัดเป็นปลากระป๋อง เที่ยวได้ชิลล์ๆสบายๆ)
สำหรับอาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดอิชิกาวะที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนไปลิ้มลองก็คือ แกงกะหรี่คานาซาวะ กับ โจนามะกาชิ
แกงกะหรี่คานาซาวะ (Kanazawa Curry) เป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองคานาซาวะ จุดเด่นของแกงกะหรี่สูตรนี้คือมีความเข้มข้นและหนืดกว่าปกติ โดยแกงจะถูกราดลงไปอย่างเต็มที่จนท่วมข้าวมิด แล้วท้อปปิ้งด้วยทงคัตสึกับผักกะหล่ำปลี
โจนามะกาชิ (Jonamagashi) เป็นขนมญี่ปุ่นขึ้นชื่อของเมืองคานาซาวะ ขนมชนิดนี้เป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ประมาณช่วงศตวรรษที่ 17 โดยเป็นขนมที่ปั้นขึ้นมาอย่างสวยงาม ดูหน้าตาน่ารัก คนญี่ปุ่นนิยมทานคู่กับชาเขียวมัทฉะในพิธีชงชา
โจนามะกาชินั้นทำมาจากอัง(ถั่วอะซูกิบด)ที่มีสีขาว และกิวฮิ(แป้งโมจิผสมน้ำตาล) เนื้อสัมผัสของขนมชนิดนี้จะมีความนุ่ม เมื่อทานเข้าไปความหวานที่ละเอียดอ่อนของน้ำตาลจะกระจายไปทั่วทั้งปาก ให้ความหอมอร่อย กลมกล่อมสุดๆ
- อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดอิชิกาวะได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดอิชิกาวะ’ ที่ต้องไปโดนสักครั้ง!
9. จังหวัดฟุกุอิ (Fukui Prefecture)
‘จังหวัดฟุกุอิ’ มีจังหวัดนี้ด้วยเหรอ?
ใช่แล้ว คุณไม่ได้ฟังผิดอย่างแน่นอน ฟุกุอิ (Fukui Prefecture) คือชื่อของจังหวัดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นที่อาจจะไม่คุ้นหูคนไทยเท่าโตเกียวหรือโอซาก้า แต่จังหวัดฟุกุอิก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าหลงใหลและน่าไปไม่แพ้สถานที่ใดในญี่ปุ่นเลย
หากกล่าวถึงประวัติของสถานที่แห่งนี้ แต่เดิมในอดีตจังหวัดฟุกุอิมีชื่อว่า ‘เมืองเอจิเซ็น’ และปกครองภายใต้อำนาจของไดเมียวตระกูลอาซากุระ ต่อมา ‘โอดะ โนบุนากะ’ ได้ยึดอำนาจและปราบปรามตระกูลอาซากุระ เมืองเอจิเซ็นจึงกลายเป็นศูนย์กลางการบริหารงานท้องถิ่นและเศรษฐกิจที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นในฐานะเมืองปราสาทของ ‘ชิบาตะ คัทสึอิเอะ’ แม่ทัพคนสำคัญของโอดะ โนบุนากะและเป็นเจ้าครองแคว้นคนที่ 16
ภายหลังสงครามเซกิงาฮาระ เมืองเอจิเซ็นก็ได้ถูกปกครองโดยตระกูลมัตสึไดระซึ่งเป็นเครือญาติเดียวกันกับโชกุน ‘โทคุกาวะ อิเอยาสึ’
สำหรับที่ตั้งของจังหวัดฟุกุอิ จังหวัดนี้ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุทางฝั่งทิศเหนือของภูมิภาคคันไซ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่หันหน้าออกสู่ทะเลญี่ปุ่นแล้ว ภูมิประเทศส่วนใหญ่ของฟุกุอิก็ยังรายล้อมไปด้วยภูเขา จังหวัดแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติอันแสนสมบูรณ์ เมื่อผนวกกับสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยภูมิหลังและเรื่องราวมากมายอันน่าค้นหา เราจึงกล่าวได้ว่าฟุกุอิเป็นอีกหนึ่งจังหวัดของ ‘ภูมิภาคชูบุ’ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวให้เลือกหลากหลายสไตล์
สำหรับเมนูอาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดฟุกุอิที่เราอยากให้ทุกคนไปลิ้มลองกันก็คือ ปูเอจิเซ็น กับ ดังโงะ ยูเมะสึเกะ
ปูซุวะอิ (Zuwaigani) เป็นปูชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น จนได้รับฉายาว่าเป็น ‘ราชาแห่งอาหารรสเลิศในฤดูหนาว’ เลยทีเดียว แหล่งอาศัยของปูซุวะอิคือทะเลญี่ปุ่นและทะเลโอคอสต์ (Okhotsu Sea) แต่หนึ่งในสายพันธุ์ย่อยของปูซุวะอิที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยก็คือ ปูเอจิเซ็น
ปูเอจิเซ็น เป็นปูชนิดเดียวที่เคยมีการนำไปถวายแด่ราชวงศ์ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะทานปูชนิดนี้แบบซาชิมิสดๆ แบบปิ้งย่าง หรือแบบชาบูหม้อไฟก็ล้วนอร่อยหมดทุกเมนู
ส่วน ดังโงะ ยูเมะสึเกะ (Dango Yumesuke) เป็นร้านดังโงะชื่อดังในเมืองโอโนะที่นอกจากรสชาติจะอร่อยมากๆแล้ว หน้าตาของเจ้าดังโงะชนิดนี้ก็ยังมีสีสันสวยงามน่ากินมากมาย ถ้าได้ไปเที่ยวปราสาทโอโนะแล้วต้องลองแวะไปกินกันดูนะ!
- อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดฟุกุอิได้ที่นี่ : รวม 22 สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปโดนสักครั้งของ จังหวัดฟุกุอิ
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ