รวมที่เที่ยว ‘ภูมิภาคคันโต’ มนตร์เสน่ห์แห่งอารยธรรมโบราณท่ามกลางความทันสมัย

บทนำ : ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)

ภูมิภาคคันโต (Kanto) ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกาะฮอนชู ประกอบด้วย 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดโตเกียว (Tokyo) จังหวัดคานากาวะ (Kanagawa) จังหวัดชิบะ (Chiba) จังหวัดไซตามะ (Saitama) จังหวัดกุนมะ (Gunma) จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) และจังหวัดโทชิงิ (Tochigi)

“ภูมิภาคคันโต” เป็นภูมิภาคที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุด และยังเป็นที่ตั้งของจังหวัดโตเกียวซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ด้วยความที่เป็นจุดศูนย์กลางของประเทศ ภูมิภาคนี้จึงมีระบบคมนาคมที่สะดวกสบายครบครัน มีนวัตกรรมที่ล้ำสมัย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘เมืองคามาคุระ’ เมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ หรือ ‘เมืองนิกโก้’ เมืองที่องค์การยูเนสโกยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Tokyo Disneyland และ Tokyo DisneySea อันโด่งดังอีกด้วย

นอกจากนี้ภูมิภาคคันโตยังมีของอร่อยอีกมากมายที่รอให้คุณมาสัมผัสและลิ้มลองด้วยตัวเอง!

ในบทความนี้ fromJapan จะมาแนะนำที่เที่ยวเด็ดๆในคันโตให้ทุกคนกันค่ะ 😊 หากพร้อมจะไปเที่ยวภูมิภาคที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันหลากหลายแห่งนี้กันแล้วล่ะก็ ตามเรามาได้เลย!

สารบัญ (Index) : ภูมิภาคคันโต

• 1. จังหวัดโตเกียว (Tokyo Prefecture)
• 2. จังหวัดคานากาวะ (Kanagawa Prefecture)
• 3. จังหวัดชิบะ (Chiba Prefecture)
• 4. จังหวัดไซตามะ (Saitama Prefecture)
• 5. จังหวัดกุนมะ (Gunma Prefecture)
• 6. จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki Prefecture)
• 7. จังหวัดโทชิงิ (Tochigi Prefecture)

1. จังหวัดโตเกียว (Tokyo Prefecture)

จังหวัดโตเกียว (Tokyo Prefecture) นั้นนอกจากจะเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังถือเป็นเมืองใหญ่ที่น่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เนื่องด้วยจังหวัดนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นย่านชอปปิ้ง ร้านอาหาร คาเฟ่ ศาลเจ้า อนุสาวรีย์ พิพิธภัณฑ์ ตึกระฟ้า สวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม รวมถึงสถานที่อื่นๆอีกมากมายนับไม่ถ้วน

แม้ว่าภาพลักษณ์ของโตเกียวในปัจจุบันจะจัดอยู่ในธีม ‘มหานคร’ (Metropolis) อย่างเต็มรูปแบบ แต่เมืองหลวงใหญ่แห่งนี้ก็ยังคงมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนา เช่น วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) วัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว

ในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น โตเกียวจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความทันสมัยอย่างแท้จริง ดังจะเห็นได้จากตึกระฟ้าหลายๆแห่ง รวมถึงบรรยากาศของท้องถนนซึ่งเต็มไปด้วยสีสันของผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างพลุกพล่าน และยังไม่นับรวมสวนชินจูกุเกียวเอ็น สวนขนาดใหญ่ที่ได้รับฉายาว่า ‘โอเอซิสแห่งกรุงโตเกียว’ และตรอกโอโมอิเดะโยโกโจ ตรอกเล็กๆที่มีร้านอาหารและร้านสไตล์อิซากายะเรียงรายกันอย่างแน่นขนัด

ส่วนอาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดโตเกียวที่น่าลิ้มลองนั้นก็คงหนีไม่พ้น เอโดะมาเอะซูชิ และ จังโกะนาเบะ นั่นเอง

เอโดะมาเอะซูชิ หรือ ซูชิสไตล์เอโดะ เป็นซูชิที่ใช้วัตถุดิบจากอ่าวโตเกียวเป็นวัตถุดิบหลักในการทำทั้งหมดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นปลาทูน่า (Tuna) ปลาโบนิโตะ (Bonito) ปลาแฮลิบัต (Halibut) ปลาไหลทะเล (Sea Eel) หรือหอยทะเล (Shellfish) ทั้งหมดก็ล้วนมาจากอ่าวโตเกียวทั้งสิ้น ถ้ามาถึงโตเกียวแล้วทุกคนก็อย่าลืมลองไปชิมกันดูให้ได้นะคะ

จังโกะนาเบะ (Chanko Nabe) เป็นเมนูหม้อไฟที่ได้รับความนิยมจากนักซูโม่ของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เพราะจังโกะนาเบะเป็นอาหารที่มักจะถูกเสิร์ฟในปริมาณมากๆในคราเดียว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีที่นักซูโม่จะใช้เมนูนี้ในการเพิ่มน้ำหนักตัวของพวกเขาค่ะ

ถ้าเพื่อนๆอยากจะลิ้มลองความอร่อยของเมนูนี้ ก็สามารถเดินเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นหรือร้านอิซากายะทั่วไปในโตเกียวได้เลย

• อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดโตเกียวได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดโตเกียว’ ที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง!

Back To Index

2. จังหวัดคานากาวะ (Kanagawa Prefecture)

จังหวัดคานากาวะ (Kanagawa Prefecture) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของโตเกียว เป็นจังหวัดที่มีสถานที่น่าสนใจหลากหลายแบบ ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์ที่ ‘เมืองคามาคุระ’ เป็นศูนย์กลางอำนาจของยุคโชกุน หรือจะเป็นเมืองท่าทันสมัยอย่าง ‘เมืองโยโกฮาม่า’ ซึ่งมีทั้งวิวสวยๆ ที่ชอปปิ้ง และของกินอีกเพียบ

นอกจากนี้ยังมี ‘เมืองฮาโกเนะ’ เป็นสถานที่ตากอากาศท่ามกลางธรรมชาติที่เดินทางจากโตเกียวได้สะดวก พ่วงด้วยเอาท์เลตที่เราสามารถไปช้อปกระจายต่อได้ ในขณะที่โซนเก็บตกก็มีการแสดงไฟที่ดีที่สุดของภูมิภาคคันโต

รวมถึงพิพิธภัณฑ์ของการ์ตูนขวัญใจชาวไทยอย่างโดราเอมอนอีกด้วย

หากมาเที่ยวที่จังหวัดคานากาวะแล้ว อาหารประจำท้องถิ่นที่ห้ามพลาดเลยก็คือ สุกี้ยากี้ และ ไคกุนคาเระ

สุกี้ยากี้ (Sukiyaki) เป็นอาหารประเภทหม้อไฟที่คนไทยอย่างเราคุ้นเคยกันดี แต่สุกี้ยากี้ของเมืองโยโกฮาม่านั้นจะประกอบไปด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นที่แสนอร่อย อย่างเนื้อวัวสไลด์บางและผักที่ต้มในกระทะเหล็กก้นตื้น

จุดเริ่มต้นของเมนูนี้คือในปี 1859 โยโกฮาม่าได้เปิดเมืองให้ชาวต่างชาติเข้ามาค้าขาย ชาวโยโกฮาม่าจึงได้รับวัฒนธรรมการทานเนื้อวัวมาจากต่างชาติ ซึ่งหลังจากที่คนญี่ปุ่นไม่กินเนื้อวัวมาเป็นเวลาหลายร้อยปี (เป็นอิทธิพลจากจีน ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องการนับถือเจ้าแม่กวนอิมหรือเปล่า) ชาวโยโกฮาม่าก็เริ่มกลับมาทานเนื้อวัวอีกครั้ง

ชื่อเรียกเมนูนี้แบบดั้งเดิมคือ Gyu-Nabe แต่ในเวลาต่อมาก็ได้วิวัฒนาการมาเป็น ‘สุกี้ยากี้’

ไคกุนคาเระ (Kaigun Kare) เป็นเมนูที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นรากฐานของแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเลยค่ะ

เมนูนี้มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Yokosuka Curry คำว่า ‘Yokosuka’ คือชื่อเมืองในคานากาวะที่เติบโตจากกองทัพเรือ กล่าวกันว่าอาหารตะวันตกของเมืองนี้ถูกคิดค้นขึ้นจากสหราชอาณาจักร

จุดประสงค์ในการทำเมนูนี้คือเพื่อรักษาสุขภาพของลูกเรือในระหว่างการเดินทางระยะยาว กองทัพเรืออังกฤษนั้นชอบกินแกงกะหรี่กับขนมปัง แต่กองทัพเรือญี่ปุ่นไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับแกงกะหรี่นั้นได้ ต่อมาจึงได้มีการปรับปรุงน้ำแกงนิดหน่อยด้วยการเติมแป้งเพื่อให้น้ำแกงเข้มข้นขึ้น จนก่อให้เกิดเป็นวัฒนธรรมการกินข้าวกับแกงกะหรี่ที่ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ

• อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดคานากาวะได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดคานากาวะ’ ที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง!

Back To Index

3. จังหวัดชิบะ (Chiba Prefecture)

จังหวัดชิบะ (Chiba Prefecture) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ ‘ภูมิภาคคันโต’ (Kanto Region) บริเวณทิศเหนือของจังหวัดนี้มีพื้นที่ติดกับจังหวัดอิบารากิ ส่วนบริเวณทิศตะวันตกมีพื้นที่ติดกับจังหวัดไซตามะและจังหวัดโตเกียว

แม้ว่า ‘จังหวัดชิบะ’ จะไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังมากเท่าจังหวัดอื่นๆในญี่ปุ่น แต่ที่นี่ก็เป็นถึงที่ตั้งของ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) สวนสนุกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่นเชียวนะ!

นอกจากนี้ชิบะก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วัดนาริตะซัน ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple) หนึ่งในวัดสำคัญที่สุดของญี่ปุ่น

หรือ สวนโมบาระ (Mobara Park) ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

ส่วนอาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดชิบะที่น่าลิ้มลองก็คือ ฮาการิเมะ กับ คัตสึอุระ ทันทันเมน

ฮาการิเมะ (Hakarime) เป็นชื่อเรียกของปลาไหลคองเกอร์ (Conger Eel) ที่สามารถพบได้ในเมืองฟุตสึ (Futtsu City) เหตุผลที่เจ้าปลาไหลดังกล่าวมีชื่อเรียกแบบนี้ เป็นเพราะว่ารูปร่างของมันมีลักษณะคล้ายกับเครื่องชั่งน้ำหนัก หรือ ‘ฮาการิเมะ’ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายตามตลาดปลาและท่าเรือของญี่ปุ่น

ถ้าเพื่อนๆได้มาเที่ยวที่ชิบะก็อย่าลืมลองทานข้าวหน้าปลาไหลฮาการิเมะย่างดูนะคะ รับรองเลยว่ารสชาติของมันจะอร่อยจนติดตรึงในใจทุกคนไปอีกนานแน่นอน!

คัตสึอุระ ทันทันเมน (Katsuura Tantanmen) เป็นเมนูราเมนที่มีชื่อเสียงของเมืองคัตสึอุระ (Katsuura City) จังหวัดชิบะ ความพิเศษของราเมนจานนี้อยู่ที่การใช้ซอสถั่วเหลืองซึ่งทำจากน้ำมันพริกและหัวหอมหลากหลายชนิด แค่เห็นชื่อวัตถุดิบก็แทบจะได้กลิ่นหอมชวนหิวกันแล้วใช่ไหมล่ะคะทุกคน นานๆทีเราจะเจออาหารญี่ปุ่นที่เข้มข้นไปด้วยเครื่องเทศแบบนี้

แต่เดิม ‘คัตสึอุระ ทันทันเมน’ เป็นเมนูที่ชาวประมงท้องถิ่นนิยมทานกันในช่วงฤดูหนาว เพื่อให้ร่างกายของพวกเขาอบอุ่นสู้กับอากาศหนาวๆได้นั่นเองค่ะ อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆสามารถเจอเมนูคัตสึอุระ ทันทันเมนได้ตามร้านอาหารทั่วไปในเมืองคัตสึอุระเลยนะคะ

• อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดชิบะได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดชิบะ’ ที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง!

Back To Index

4. จังหวัดไซตามะ (Saitama Prefecture)

จังหวัดไซตามะ (Saitama Prefecture) เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่อยู่ติดกับโตเกียว และเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ในขณะที่โตเกียวมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยทันสมัยหรือห้างขนาดใหญ่ไว้ช้อปปิ้งสินค้าที่น่าสนใจ จังหวัดใกล้เคียงกันอย่าง ‘ไซตามะ’ กลับเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแหล่งวัฒนธรรมอันสวยงาม เรียกได้ว่าสองจังหวัดซึ่งมีพื้นที่อยู่ติดกันนี้ช่างเป็นความแตกต่างที่แสนลงตัวจริงๆ

จังหวัดไซตามะนั้นมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อันน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองโบราณอย่าง ‘คาวาโกเอะ’ (Kawagoe City)

ปราสาทโอชิ (Oshi Castle)

เมืองนากาโทโระ (Nagatoro)

นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์รถไฟไซตามะ (The Railway Museum) ถ้ำน้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกะคุโบะ (Icicles of Ashigakubo) และที่เที่ยวอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งน่าเดินทางไปเยี่ยมเยือนไม่แพ้กัน

สำหรับอาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดไซตามะที่ไม่ควรพลาดและต้องมาลิ้มลองกันให้ได้สักครั้งก็คือ จิจิบุโซบะ และ น้ำแข็งไสมันหวาน

จิจิบุโซบะ (Chichibu Soba) เป็นอีกหนึ่งของดีประจำเมืองจิจิบุที่ควรค่าแก่การลิ้มลอง ภายในเมืองจิจิบุมีร้านโซบะอยู่ประมาณ 60 กว่าร้านเลยค่ะ แต่ละร้านก็จะมีสูตรทำซอสดิปโซบะโบราณที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป แต่ทั้งนี้เราขอรับประกันเลยว่าเพื่อนๆจะได้ทานโซบะที่ทั้งสดใหม่และอร่อยมากๆอย่างแน่นอน

นอกจากปลาไหลแล้ว มันหวาน ก็เป็นของกินขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของเมืองคาวาโกเอะค่ะ เราสามารถเพลิดเพลินกับการทานมันหวานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นมันหวานที่เสิร์ฟในไคเซกิ (*Kaiseki : คอร์สอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมที่จะเสิร์ฟตามลำดับขั้นอย่างพิถีพิถันในแบบฉบับของญี่ปุ่น) หรือขนมญี่ปุ่นที่ทำจากมันหวาน (Sweet Potato Wagashi)

อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำเมนูของหวานแสนอร่อยที่เย็นชื่นใจอย่าง “น้ำแข็งไสมันหวาน” (Sweet Potato Shaved Ice) ด้วยค่ะ เพราะรสสัมผัสหวานมันที่ค่อยๆละลายในปากอย่างช้าๆนั้น นับเป็นเรื่องที่ดีต่อใจเหลือเกินค่ะ

• อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดไซตามะได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดไซตามะ’ ที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง!

Back To Index

5. จังหวัดกุนมะ (Gunma Prefecture)

จังหวัดกุนมะ (Gunma Prefecture) มีออนเซ็นที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นอย่าง คุซัทสึออนเซ็น (Kusatsu Onsen) รวมถึงออนเซ็นอื่นๆที่ดังในระดับ Top 10 อีกหลายแห่ง ออนเซ็นเหล่านี้ส่วนมากจะอยู่ท่ามกลางหุบเขา ทำให้เราได้ชมธรรมชาติที่สวยงามระหว่างแช่ออนเซ็นอย่างผ่อนคลาย

หรือใครที่เป็นสายวินเทจ ในกุนมะก็มีแหล่งออนเซ็นหลายแห่งที่มีบรรยากาศสไตล์เมืองย้อนยุค เสมือนเราได้ย้อนกลับไปใช้ชีวิตในยุคเมจิยังไงยังงั้น

นอกจากนี้ จังหวัดกุนมะยังมีบรรยากาศแตกต่างจากหลายๆจังหวัดในญี่ปุ่นที่เป็นเมืองใหญ่ เพราะคนที่นี่ใช้ชีวิตกันแบบ slow life สุดๆ (ถึงขนาดเป็นมอตโต้ประจำจังหวัดเลยว่า “Gunma slow life”) และด้วยความที่เดินทางจากโตเกียวได้ไม่ยาก หากลองเปลี่ยนบรรยากาศจากการเดินฉับๆในโตเกียวมาเดินชิลล์ๆอย่างผ่อนคลายที่กุนมะดู ก็น่าจะดีไม่น้อยเลยค่ะ

ในเมื่อเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดกุนมะแล้ว จะพลาดของอร่อยๆอย่างอาหารประจำท้องถิ่นไปได้ยังไงกันล่ะ 😉 เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนลองทาน มิซูซาวะอุด้ง และ คอนยัคกุ ค่ะ

มิซูซาวะอุด้ง (Misuzawa Udon) เป็นเมนูอุด้งที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 อุด้งที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ร่วมกันกับ ‘ซานุกิอุด้ง’ ของจังหวัดคากาวะและ ‘อินานิวะอุด้ง’ ของจังหวัดอาคิตะ

มิซูซาวะอุด้งใช้เส้นที่ทำจากน้ำบริสุทธิ์และแป้งสาลีคุณภาพสูง อีกทั้งยังใช้เกลือที่คัดสรรมาเป็นพิเศษเท่านั้นในการปรุง เส้นอุด้งชนิดนี้มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครอยู่ตรงที่ว่าตัวเส้นจะมีความหนาเล็กน้อยและมีลักษณะกึ่งโปร่งใส คนญี่ปุ่นนิยมทานมิซูซาวะอุด้งเป็นแบบเย็น โดยทานคู่กับเทมปุระค่ะ

คอนยัคกุ (Konyaku) เป็นเมนูที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลกในฐานะที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะคอนยัคกุเป็นอาหารที่แทบจะไม่มีแคลอรี่ แถมยังมีใยอาหารสูงอีกด้วย

จังหวัดกุนมะนับว่าเป็นแหล่งผลิตหัวบุกซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการทำคอนยัคกุ ปริมาณการผลิตหัวบุกเฉพาะที่กุนมะนั้นคิดเป็น 80% ของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว

คนญี่ปุ่นนิยมนำคอนยัคกุไปต้มด้วยมิโซะ หรือไม่ก็ทานเป็นชิราตากิ(เส้นบุก) นอกจากนี้คอนยัคกุยังสามารถทำเป็นเส้นราเมน เส้นพาสต้า รวมถึงทำเป็นโอเด้งได้อีกด้วย

• อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดกุนมะได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดกุนมะ’ ที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง!

Back To Index

6. จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki Prefecture)

จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki Prefecture) เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ น้ำตก ศาลเจ้า วัด และมีภูมิทัศน์ทางธรรมชาติที่แสนน่าทึ่ง นั่นเป็นเพราะว่าภูมิประเทศกว่า 40% เป็นภูเขาที่ทอดตัวยาวทางทิศเหนือ และมีพื้นที่ลุ่มแม่น้ำอันอุดมสมบูรณ์ทางทิศใต้ แถมชายฝั่งทางทิศตะวันออกยังหันหน้าออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่อิบารากิจะเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าไปเที่ยวมาก

นอกจากนี้อิบารากิยังเป็นต้นกำเนิดของไอคิโดซึ่งเป็นศิลปะการป้องกันตัวของญี่ปุ่นด้วย แถม 1 ใน 3 ของสวนดอกไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่างสวนฮิตาชิ ซีไซด์ พาร์คยังมีทิวทัศน์ของทุ่งเนโมฟีลาที่สวยงามมากในฤดูใบไม้ผลิด้วยค่ะ

ส่วนอาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดอิบารากิที่ต้องมาลิ้มลองกันก็คือ นัตโตะ และ อังโกะนาเบะ

นัตโตะ (Natto) เป็นอาหารพื้นเมืองของประเทศญี่ปุ่นซึ่งทำขึ้นโดยใช้ถั่วเหลืองที่หมักด้วยเชื้อแบคทีเรีย Bacillus subtilis สายพันธุ์ Natto

นัตโตะนั้นอุดมไปด้วยโปรตีนและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงจนสามารถใช้แทนเนื้อสัตว์ได้เลยทีเดียว แต่ว่านัตโตะก็มีกลิ่นแรงมากและมีลักษณะเป็นเมือกเหนียวที่เกิดจากปฏิกิริยาย่อยโปรตีนระหว่างการหมัก ทำให้มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบนัตโตะนั่นเอง

ถ้าใครมาอิบารากิแล้วอยากลองทานของเจ๋งๆอย่างนัตโตะ ขอบอกเลยว่ากลิ่นแรงมากจริงๆนะ แต่อร่อยอย่าบอกใครเลย!

ปลาอังโกะ หรือ ปลาแองเกลอร์ (Anglerfish) เป็นปลาทะเลน้ำลึกที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน แถมยังเป็นเมนูซิกเนเจอร์ประจำจังหวัดอิบารากิอย่างแท้จริง

ส่วน อังโกะนาเบะ (Anko Nabe) เป็นเมนูหม้อไฟที่มีทั้งปลาอังโกะและผักสดหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นผักกาดขาว ต้นหอม แครอท และเห็ดหอม นอกจากนี้อังโกะนาเบะยังเป็นเมนูที่นิยมทานกันตอนหน้าหนาวค่ะ

• อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดอิบารากิได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดอิบารากิ’ ที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง!

Back To Index

7. จังหวัดโทชิงิ (Tochigi Prefecture)

หากเอ่ยชื่อ เมืองนิกโก้ (Nikko) เราเชื่อว่าแฟนคลับประเทศญี่ปุ่นหลายๆคนก็คงรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่เมื่อพูดว่าเมืองนี้อยู่ใน จังหวัดโทชิงิ (Tochigi Prefecture) หลายๆคนคงยังไม่ค่อยเห็นภาพว่าจังหวัดนี้มีอะไรน่าเที่ยวอีกบ้างนอกจากเมืองนิกโก้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ชื่อเมืองดังกว่าชื่อจังหวัดค่ะ

โทชิงิเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กับโตเกียว โดยมีจุดขายคือธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงออนเซ็นชื่อดังหลายแห่ง โดยเมืองที่เด่นที่สุดก็คือ ‘เมืองนิกโก้’ ที่มีทั้งธรรมชาติอันสวยงาม (โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง) และอาคารสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์จำนวนมาก จนเมืองแห่งนี้ได้รับตำแหน่งมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก

• อ่านบทความเกี่ยวกับเมืองนิกโก้ >> ชมมรดกโลกและใบไม้แดง ณ 6 ที่เที่ยวเมือง ‘นิกโก้’ (Nikko)

นอกจากนี้โทชิงิยังเป็นที่ตั้งของหนึ่งในสวนดอกไม้ที่ดีที่สุดและสวนสนุกหลายแห่ง อีกทั้งยังสามารถเดินทางจากโตเกียวได้สะดวก โทชิงิจึงเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่สามารถเป็น side trip ในการเดินทางร่วมกับโตเกียวได้ง่ายมากๆ (จากโตเกียวใช้เวลาเดินทางประมาณไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง)

ถ้าหากเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดโทชิงิแล้วก็ต้องมาทานของอร่อยๆกันนะคะ ซึ่งอาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดโทชิงิก็ต้องเป็น เกี๊ยวซ่า และ ซาโนะราเมน

เกี๊ยวซ่า (Gyoza) เป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศจีนและคาดว่าเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวแมนจู เกี๊ยวซ่านั้นเริ่มเผยแพร่ไปทั่วประเทศจีนในช่วงราชวงศ์หมิง หรือนับตั้งแต่ปี 1644 เป็นต้นมา

สำหรับที่ญี่ปุ่นนั้น คาดกันว่าเกี๊ยวซ่าเริ่มเป็นที่รู้จักในปี 1700 โดยเป็นอาหารที่เผยแพร่มาพร้อมกับราเมน จากนั้นก็เริ่มแพร่หลายไปทั่วญี่ปุ่นเมื่อเข้าสู่ช่วงปี 1900 (ว่ากันว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะในช่วงหลังสงครามโลก ทหารผ่านศึกที่ตกงานต่างพากันมาทำร้านอาหารที่ญี่ปุ่น แล้วพวกเขาก็ได้ใช้สูตรอาหารที่จำมาจากจีน)

เกี๊ยวซ่าที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นก็อยู่ที่เมือง Utsunomiya ในจังหวัดโทชิงินี่เอง ดังนั้นถ้าใครมีโอกาสได้มาเที่ยวที่จังหวัดโทชิงิ ยังไงก็ต้องมาลองเลย!

ซาโนะราเมน (Sano Ramen) คือราเมนที่สามารถหาทานได้ในเมืองซาโนะ ไม่ไกลจากสวนดอกไม้อาชิคางะ ราเมนชนิดนี้เป็นที่รู้จักจากการใช้ไม้ไผ่ลำอวบในการนวดเส้น

น้ำซุปดาชิของซาโนะราเมนก็มีทั้งแบบที่สกัดมาจากกระดูกไก่และกระดูกหมู ขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละร้าน แต่ไม่ว่าจะสกัดมาจากอะไร ทุกสูตรก็ล้วนมีรสโชยุที่อร่อยเข้มข้นเช่นเดียวกัน

จุดเด่นที่สุดของซาโนะราเมนคือ ‘น้ำที่ใช้ทำราเมน’ ชาวจังหวัดโทชิงินิยมใช้น้ำจาก Izuruhara Benten Pond ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำบริสุทธิ์ที่สุดในการปรุงราเมนค่ะ

•  อ่านบทความเจาะลึกจังหวัดโทชิงิได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดโทชิงิ’ ที่ต้องไปโดนสักครั้ง!

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!

ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top